แม็กโทมิเนย์ ผู้อาจเป็น “นิวสโคลส์”
วันที่ : 22 Dec 2020 ดู :
Scott McTominay

แม็กโทมิเนย์ ผู้อาจเป็น “นิวสโคลส์”

แมนฯยูขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกแล้วหลังถล่มลีดส์ 6-2 โดยมี 26 แต้มจาก 13 นัดมีแต้มห่างจาก “จ่าฝูง” ลิเวอร์พูล 5 แต้มและแข่งน้อยกว่า 1 นัด

          และชัยชนะในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา นักเตะที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดก็คงไม่พ้น สก็อตต์ แม็กโทมิเนย์ มิดฟิลด์ทีมชาติสกอตเมื่อใช้เวลาเพียง 3 นาทีทำคนเดียว 2 ประตู เป็นการทำสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีกขึ้นมาใหม่ด้วย

            กล่าวคือเป็นนักเตะคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่ใช้เวลาเพียง 3 นาทีหลังคิกออฟยิงได้ 2 ประตู

            นอกจากนั้นแล้ว ประตูแรกที่ยิงได้ใช้เวลาเพียงแค่ 66 วินาที ซึ่งก่อนหน้านี้คนที่ทำได้ก็คือโรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่ใช้เวลา 31 นาทียิงประตูให้แมนฯยู ในเกมที่เจอกับทีม “ขุนค้อน” เวสต์แฮม เมื่อปี 2012

            ฤดูกาลที่แล้ว มิดฟิลด์ชาวสกอตทำได้ทั้งหมด 5 ประตู ส่วนฤดูกาลนี้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 11 นัด ทำ 1 แอสซิสต์ และยิง 2 ประตู โดยสองประตูที่ทำได้ก็คือในเกมยำใหญ่ “ยูงทอง” นั่นเอง

            แม็กโทมิเนย์อายุ 24 เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวตัดเกม และเป็นเด็กฝึกหัดของแมนฯยู ไต่เต้าจากทีมเยาวชนชุดอายุไม่เกิน 18 ปีและก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2017 และเข้าๆ ออกๆ อยู่ในทีมอยู่หลายปี และในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถือว่ามีโอกาสมาก แต่หลายนัดก็ต้องกลายเป็นสำรองเพราะแท็คติกการเล่นของทีม กระทั่งเมื่อสามารถลงเล่นตัวจริงเมื่อทีมกลับมาเล่นโดยใช้มิดฟิลด์ตัวรับสองคน โดยเขายืนคู่กับเฟร็ด มิดฟิลด์แซมบ้า

            โซลชา ปลื้มกับชัยชนะของ “ผีแดง” เหนือลีดส์อย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้แมนฯยู ถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และผลงานในทีมก็ไม่โดดเด่นเท่าไหร่ กระทั่งเมื่อสามารถเก็บชัยชนะนอกบ้านได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงเกมล่าสุดที่เอาชนะลีดส์ ไม่เพียงแต่จะเป็นฟอร์มการเล่นอันเฉียบขาดเท่านั้น แต่ยังทำให้ทีมอยู่ในสถานการณ์ได้ลุ้นแชมป์อีกต่างหาก

            “ผมมีความสุขกับการสร้างสรรค์เกมของเรามากในเกมนี้ ความจริงสกอร์น่าจะออกมา 12-4 ประตูได้ด้วยซ้ำไป”   

            กุนซือชาวนอร์เวย์พอใจที่สุดก็คือในเกมนี้ไม่มีชื่อของมาร์คัส แรชฟอร์ด,อองโธนี มาร์กซิยาล และ เมสัน กรีนวู้ด ทำประตู แต่ก็ยังยิงได้ถึง 6 ประตูโดยผู้เล่นคนอื่น และสองประตูในนัดนั้นก็คือมิดฟิลด์ตัวตัดเกมอย่างแม็กโทมิเนย์

            โซลชาตั้งชื่อให้มิดฟิลด์ชาวสกอตว่า “มอนสเตอร์” เพราะการเล่นที่ทุ่มเทเต็มร้อย สามารถวิ่งได้ไม่หยุดราวกับมีพลังของปีศาจแฝงเร้นอยู่ และความเชื่อมั่นของแม็กโทมิเนย์ทำให้เพื่อนร่วมทีมมีพลังใจอย่างมาก

            “บางคนอาจจะเพิ่งสังเกตเห็นความยอดเยี่ยมของเขาจากสองประตูในเกมนี้ แต่สกอตต์ทำงานเช่นนี้มาตลอดทุกเกม เขามีความฟิตเต็มร้อย และเทคนิคก็ดี ผมคิดว่าเขาสามารถทำได้ทุกสิ่งเพื่อทีม เขาสอดตัวเองขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเสมอ การยิงประตูก็เฉียบคม” โซลชากล่าว

            กุนซือ “ผีแดง” ยังไม่อยากพูดถึงการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เพราะเส้นทางยังอยู่อีกยาวไกล และไม่อยากให้ทุกคนในทีมมองไปที่อันดับในตาราง เพราะยังมีงานทีต้องทำอีกมาก

            ส่วนแม็กโทมิเนย์เองกล่าวว่า ชัยชนะเหนือลีดส์น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะฤดูกาลนี้ “ผีแดง” มีปัญหากับการเล่นในบ้านมากกว่าเป็นทีมเยือน

            แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษและแมนฯยูแสดงความเห็นว่า สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพอล สโคลส์ กับ รอย คีน

            “ความจริงเขามักสอดตัวเองขึ้นไปอยู่ในกรอบเขตโทษได้ดีเสมอนะ เหมือนเป็นปีศาจที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาผมไม่รู้ว่าเพราะแท็คติกหรือว่าอะไรหรือเปล่าทำให้สถิติการทำประตูของเขาน้อยกว่าความสามารถที่แท้จริงของเขาอย่างมาก”

            ในขณะที่รอย คีน อดีตกัปตันทีม “ผีแดง” เห็นว่าแม็กโทมิเนย์คล้ายกับสโคลส์ ถ้าพูดถึงจังหวะที่ชอบสอดจากแผงกลางเข้าไปในกรอบเขตโทษ

            แต่สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ จะเป็น “นิว สโคลส์” ได้หรือไม่ก็ต้องดูผลงานของ “ผีแดง” ในช่วงเทศกาลบ็อกซิ่ง เดย์นั่นเอง

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight