สุขสมหวังเสียที! Man City คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยยุโรป

ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยมายาวนานกว่า 143 ปี สำหรับทีม “เรือใบสีฟ้า” Manchester City ที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยยุโรปให้ได้ นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1880 โดยทีม Man City นำทีมโดยกุนซือ Pep Guardiola สามารถเอาชนะทีม “งูใหญ่” Inter Milan ไปได้ 1-0 จากการประตูชัยของ Rodri ในนาทีที่ 6 8 ในศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก (UCL) นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามอตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย ในคืนวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา ทำให้แฟนบอลทีมเรือใบสีฟ้าสุขสมหวังเสียที เมื่อ Man City คว้าแชมป์ยุโรปหนแรกมาครองได้เป็นประวัติศาสตร์ของทีม

1880 จุดเริ่มต้นของทีม Man City

นับตั้งแต่ปี 1880 ทีม St. Mark’s (West Gorton) ได้ก่อตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกอีกทีมหนึ่งให้กับแฟนบอลของชาวเมือง Manchester ประเทศอังกฤษ หลังจากก่อนหน้านี้มีทีมฟุตบอลก่อตั้งมาก่อนในปี 1878 นั่นคือทีม Newton Heath หรือทีม”ปีศาจแดง” Manchester United ในปัจจุบันนั่นเอง ต่อมาทีม St. Mark’s ได้เปลี่ยนชื่อเป็นทีมสมาคมฟุตบอล Ardwick เมื่อปี 1887 และได้เปลี่ยนชื่อทีมอีกครั้งในปี 1894 เป็นทีม Manchester City จนมาถึงปัจจุบัน ทำให้กลายเป็นทีมเพื่อนบ้านที่สร้างทีมขึ้นมาต่อกรกับทีมดังของเมืองอย่างทีม Man United มาตลอด จนท่าน Sir Alex Ferguson อดีตกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของทีมปีศาจแดงได้ตั้งฉายาให้กับทีม Man city ว่า “ทีมเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญ”

จากทีมเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญ กลายเป็นทีมเพื่อนบ้านที่น่าเกรงขาม

ก่อนหน้านี้ทีม “เรือใบสีฟ้า” Man City เป็นทีมลูกไล่ของ Man United มาโดยตลอดทั้งเรื่องความสำเร็จในการคว้าแชมป์และความโด่งดังเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก จนกระทั่งจุดเปลี่ยนในปี 2008 เมื่อกลุ่มทุนอาบู ดาบี ซึ่งนำโดยชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ได้เข้ามาซื้อทีม Man City ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย คือคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ซื้อทีมได้แค่ปีเดียว กลุ่มทุนอาบู ดาบี ได้นำเงินมหาศาลเพื่อซื้อตัวผู้เล่นและผู้จัดการทีมคนดังมาทำทีม และสามารถสร้างให้ทีม “เรือใบสีฟ้า” กลายเป็นยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 7 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย และแชมป์ลีก คัพ 6 สมัยในตลอด 15 ปีที่ผ่านมาหลังจากได้เข้ามาบริหารทีม
แต่สิ่งที่ยังคงค้างคาใจของทีมเรือใบสีฟ้า นั่นคือ ทีมยังไม่เคยได้แชมป์ยุโรปเลยนับตั้งแต่ก่อนตั้งทีมมา 143 ปี อย่างดีที่สุดก็คือการได้เข้ารอบรองชนะเลิศในปี 2021 แต่ก็พ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศต่อทีม “สิงห์บูล” Chelsea 0-1 ชวดแชมป์ไป แม้ว่าทีมจะได้ยอดกุนซืออย่าง Pep Guardiola ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม และกุนซือ Pep เคยพาทีม Barcelona เป็นแชมป์ยุโรปในปี 2009 และ 2011 โดยนักวิเคราะห์เกมฟุตบอลได้ถอดบทเรียนของทีม Man City มาได้ว่า “ทำไมเรือใบมักจะล่มในบอลยุโรป” ดังนี้

1. Man City มักจะเล่นไม่ดีเมื่อเล่นรอบน็อคเอาท์ ทีมเรือใบสีฟ้าจะโชว์ฟอร์มร้อนแรงในรอบแบ่งกลุ่ม แต่เมื่อเล่นรอบน็อคเอาท์มักจะเล่นไม่ดีโดยเฉพาะยามออกไปเยือน ทำให้มีโอกาสตกรอบสูง
2. Man City มักจะวางแผนผิดเมื่อเล่นรอบน็อคเอาท์ การเล่นฟุตบอลยุโรปในรอบน็อคเอาท์ จะแข่ง 2 นัดและทีมที่ได้เปลี่ยนคือทีมที่จะเล่นนัดที่ 2 ทีหลังในบ้าน แต่เมื่อไปเยือนก่อนทีม Man city มักจะวางการเล่นที่ผิดธรรมชาติของทีม คือการเล่นเกมรับและรอสวนกลับ แทนที่จะบุกไปเอาประตูทีมเยือนกลับมาจะทำให้ทีมได้เปรียบในนัดที่ 2
3. Man City มักจะกดดันและเล่นพลาดกันเอง โดยกองหลังของทีมมักจะเป็นมาตลอดเพราะมักจะเสียบอลง่ายเมื่อโดนกดดันจากคู่แข่ง ทำให้เสียประตูง่ายๆ เพราะการเล่นผิดพลาด รวมทั้งกองหน้าที่ใช้โอกาสเปลืองไม่สามารถจบสกอร์ได้ทำให้ทีมมักจะต้องตกรอบเป็นประจำ
   แต่ในปี 2023 นี้บทเรียนต่าง ๆ กุนซือ Pep ได้เรียนรู้และสามารถกลับไปแก้ไขปัญหาได้ และนำลูกทีมเล่นได้อย่างเน้นเป็นพิเศษเพื่อจะไม่อกหักซ้ำซากในฟุตบอลยุโรป โดยสามารถปราบทีมดังทั้งทีมเสือใต้ Bayern Munich และทีมแชมป์เก่า 13 สมัยอย่างทีม “ราชันชุดขาว” Real Madrid ได้แบบราบคาบ จนในปี 2023 ถือเป็นปีทองของทีมเรือใบสีฟ้าที่ได้ครองจ้าวยุโรป

ปี 2023 ปีทองของ Man City คว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียว

ในปี 2023 ทีม Man City ภายใต้การนำทีมของกุนซือ Pep สามารถทำแต้มแซงชนะทีม”ปืนใหญ่” Arsenal ที่ทำแต้มนำจ่าฝูงของตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก มาเกือบทั้งฤดูกาล แต่ในช่วงท้ายกลายเป็นทีม Man City คว้าแชมป์ไปครองและยังทำสถิติคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นมา นอกจากนี้ Man City ยังปราบทีมคู่อริของเมืองอย่างทีม Man United 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอล FA Cup ไปครองได้ และหากคว้าแชมป์ยุโรปได้อีกก็จะทำให้ทีม Man City คว้า 3 แชมป์ (Triple)ในฤดูกาลเดียว และในที่สุด โดยทีม Man City สามารถเอาชนะทีม Inter Milan 1-0 คว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นหนแรกของทีม พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีม ปี 2023 จึงเป็นปีทองของทีมอย่างแท้จริง และนับจากนี้ ทีมเรือใบสีฟ้า Man City กลายเป็นทีมที่ครบเครื่องลงตัวทุกขุมกำลังผู้เล่นในทีม และพร้อมไล่ล่าแชมป์ทุกรายการต่อไป

ไฮไลท์ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ (sportlight24.com)