ฟุตบอลลีกซาอุฯ แหล่งรวมดาวเตะดังแห่งใหม่ของเอเชีย
ศึกฟุตบอลโปรเฟสชั่นแนลลีก ของประเทศซาอุดิอาระเบีย กำลังจะกลายเป็นแหล่งรวมดาวเตะดังแห่งใหม่ของทวีปเอเชีย หลังจากที่ Cristiano Ronaldo หรือ CR7 ดาวเตะดังกัปตันทีมชาติโปรตุเกสได้ย้ายมาร่วมทีม Al Nassr ทีมเมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลลีกของซาอุฯ และกลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดล่อใจให้บรรดานักเตะดังๆจากทวีปยุโรปให้อยากที่จะย้ายตาม CR7 มาร่วมค้าแข้งในดินแดนแห่งเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้อีกด้วย
CR7 Soft Power ปรากฏการณ์ดึงดูดดาวเตะดังมาขุดทองที่ซาอุฯ
หลังจากที่ Cristiano Ronaldo กองหน้ากัปตันทีมชาติโปรตุเกสในวัย 37 ปี เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์หรือนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก 5 สมัย ได้ย้ายจากทีม “ปีศาจแดง” Manchester United ทีมดังแห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มาร่วมทีม Al Nassr ทีมดังแห่งศึกฟุตบอลโปรเฟสชั่นแนลลีก ของประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา โดยการย้ายมาเล่นในลีกของซาอุฯ ของ CR7 ในครั้งนี้ นอกจากที่จะทำให้กระแสฟุตบอลของซาอุฯ ได้รับความสนใจจากแฟนบอลที่แห่กันซื้อตั๋วไปชมเกมที่ CR7 ลงสนาม รวมทั้งสื่อมวลชนจากทั่วโลกได้จับตาทำข่าวกันเป็นยกใหญ่ สิ่งที่เราเห็นผลกระทบของ CR7 กลายเป็น Soft Power ปรากฏการณ์ดึงดูดดาวเตะดังๆจากยุโรปให้ย้ายมาร่วมขุดทอง โกยเงินจากประเทศซาอุฯ โดย CR7 ได้รับค่าจ้างจากทีม Al Nassr สูงถึงปีละ 200 ล้านยูโรหรือประมาณ 7,435 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่งไปจนถึงกลางปี 2025 ถือเป็นการไปขุดทองในช่วงปลายชีวิตนักเตะอาชีพที่ได้รับเงินก้อนโตอย่างมหาศาลมากกว่าสมัยเล่นในยุโรปหลายเท่าตัว ดังนั้น “เงินมา ผ้าหลุด” ทำให้เมื่อจบฤดูกาลของฟุตบอลลีกในยุโรป ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บรรดานักเตะดังจากยุโรปได้ย้ายตาม CR7 มาค้าแข้งในซาอุฯ ไม่ว่าจะเป็น Karim Benzema กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสวัย 35 ปี เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์หนล่าสุด ปี 2022 ได้ย้ายจากทีม “ราชันชุดขาว” Real Madrid ทีมดังแห่งลาลีกา สเปนมาร่วมทีม Al-Ittihad รวมทั้ง N’Golo Kante กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ก็ย้ายจากทีม”สิงห์บูล” Chelsea ทีมดังของอังกฤษมาร่วมทีม Al-Ittihad เช่นเดียวกัน รวมทั้งล่าสุด Roberto Firmino กองหน้าทีมชาติบราซิลของทีม”หงส์แดง” Liverpool ทีมดังของอังกฤษ ได้ย้ายมาร่วมทีม Al Ahly อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีนักเตะดาวดังอีกหลายคนที่ถูกล็อคเป้าหมายจากทีมในประเทศซาอุฯ เพื่อล่าตัวมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็น Ruben Neves กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของทีม Wolverhampton ,ทั้ง 2 นักเตะดังจากทีม Chelsea ไม่ว่าจะเป็น Kalidou Koulibal กองหลังทีมชาติเซเนกัล และEdouard Osoque Mendy นายทวารเพื่อนร่วมทีมชาติเซเนกัล ที่พร้อมจะย้ายมาเล่นในซาอุฯ ไม่เพียงเท่านี้ เชื่อว่าจะมีทั้งนักเตะดัง รวมทั้งสุดยอดโค้ชชื่อดังที่อาจจะถูกทีมจากซาอุฯ จ้องที่จะสอยตัวไปร่วมทีม ทั้งนี้เพราะลีกฟุตบอลของซาอุฯ ต้องการที่จะให้นักเตะดาวดังเหล่านี้ย้ายมาเล่นเพื่อจะยกระดับมาตรฐานของลีกในสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับลีกยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชียทั้ง เจลีกของประเทศญี่ปุ่น และ เคลีกของเกาหลีใต้ให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ความ “บันเทิง”ในเชิงลูกหนัง หากไม่ระวังอาจจะ”บรรลัย”ในด้านเศรษฐกิจ
สื่อฟุตบอลทั่วโลกต่างมองว่า การทุ่มเงินจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักฟุตบอลชื่อดังเพื่อหวังจะให้มาค้าแข้งในลีกของซาอุฯนั้น ทางลีกของซาอุฯต้องการจะสร้างความ “บันเทิง”ในเชิงลูกหนังแห่งใหม่ของฟุตบอลลีกในเอเชียแทนที่ของเจลีก และ เคลีก 2 ลีกชั้นนำของเอเชีย เพื่อโอกาสที่จะพัฒนานักเตะทีมชาติของซาอุฯ รวมทั้งหวังไกลถึงจะเป็นมหาอำนาจลูกหนังแทนที่ของ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตาม สื่อฟุตบอลทั่วโลกมองว่า ความ “บันเทิง”ในเชิงลูกหนังที่ซาอุฯกำลังจะสร้างขึ้นใหม่ หากไม่ระวังอาจจะพังและ”บรรลัย”ในด้านเศรษฐกิจ เหมือนอย่างเช่นในช่วงปี 70 ที่ เมเจอร์ลีกของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้คว้าตัวนักเตะดังอย่าง Pele กองหน้าดาวซัลโวจากบราซิลหรือ Franz Beckenbauer สุดยอดกองหลังจากเยอรมันไปเล่นในลีก แต่สุดท้ายไม่มีการพัฒนาฟุตบอลลีกต่อเนื่องอย่างเป็นระบบก็พังไม่เป็นท่า รวมทั้งในทวีปเอเชียในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ทุ่มเงินซื้อตัวนักเตะดังหวังที่จะทำให้ฟุตบอลไชนีส ซุปเปอร์ลีก กลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังแห่งใหม่ในเอเชียแทนที่ของเจลีก และ เคลีก แต่สุดท้ายก็พบกับปัญหาเดียวกับที่อเมริกา นั่นคือ การพัฒนาฟุตบอลลีกต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ สุดท้ายก็ “บรรลัย”เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก
ดังนั้นการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลอย่างที่ทีมในลีกของซาอุฯกำลังทำเพื่อคว้าตัวดาวเตะดังมาช่วยสร้างกระแสความนิยมในลีก อาจจะไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง และอาจจะซ้ำรอยกับ ไชนีส ซุปเปอร์ลีกของจีน ที่เคยทำไว้ แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามกันต่อไปว่า ศึกฟุตบอลโปรเฟสชั่นแนลลีก ของประเทศซาอุดิอาระเบียจะพัฒนาไปให้ “ดัง”ไปถึงจุดสุดยอดได้ หรือจะต้อง “ดับ”ไปสู่จุดตกอับอีกครั้ง ต้องดูกันต่อไปอีกยาวๆ
