“กุน” กับลูกยิงประวัติศาสตร์พา ซิตี้ ยิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้
วันที่ : 24 May 2022 ดู :
Sergio Agüero

“กุน” กับลูกยิงประวัติศาสตร์พา ซิตี้ ยิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้

เมื่อพูดถึงเมืองแมนเชสเตอร์ แน่นอนว่าเมืองแห่งนี้มีสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ถ้าหากพูดถึงเมื่อครั้งในอดีตที่ผ่านมา เมื่อถามถึงแฟนบอล “ปีศาจแดง” พวกเขาต่างก็กล่าวอ้างว่าเป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และคงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ต่าง ๆ มากมาย และสร้างประวัติศาสตร์ในวงการลูกหนังไว้หลายอย่าง 

แต่ทว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกแฟนบอลฝั่งตรงข้ามกล่าวถึงนั่นก็คือแฟนบอลพลาสติกที่ไม่มีคนดู และมีเพียงเก้าอี้พลาสติกตั้งอยู่ในสนาม เพราะพวกเขาแทบจะไม่มีประวัติศาสตร์อะไรเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่ง เซร์คิโอ อเกวโร “กุน” ย้ายเข้ามาร่วมทัพ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2011 และแน่นอนว่า อเกวโร “กุน” คือนักเตะที่สร้างประวัติศาสตร์ยิงในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และเป็นเกมสุดท้ายในฤดูกาล 2011 – 12 ทำให้พวกเขาปาดหน้าคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในซีซั่น 2011 – 12 กับการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในรอบ 44 ปี 

ถ้าหากว่าแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้อนกลับไปดูคลิปในเกมสุดท้ายที่ อเกวโร “กุน” ยิงเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 93.20  คงจะสะใจไม่น้อย หลังจากที่เกมในนัดสุดท้ายของฤดูกาลนัดที่ 38 ลูกยิงของ อเกวโร “กุน” ส่งให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ทันที และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ขึ้นแท่นในเกมที่พบกับ ซันเดอร์แลนด์ ต่างก็คอตกและอกหักกับการพลาดแชมป์ เพราะว่าลูกยิงของ อเกวโร “กุน” 

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังที่ถูกพูดถึงทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และนี่คือ อเกวโร “กุน” ชายที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะลูกยิงในนาที 93.20  

นาที 93.20 ที่ส่งชื่อ อเกวโร “กุน” ขึ้นสู่สกอร์บอร์ด และสร้างประวัติศาสตร์

เมื่อศึกพรีเมียร์ลีกแข่งทั้งหมด 38 นัด ก็จะรู้ผลแชมป์ของฤดูกาล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาแข่งถึงนัดที่ 37 และมีคะแนนเท่ากันที่ 86 คะแนน และแน่นอนว่าในวันดังกล่าวนัดสุดท้ายของซีซั่น “ปีศาจแดง” และ “เรือใบสีฟ้า” แข่งพร้อมกันซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปเยือน “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับ ควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ส 

และดูเหมือนว่าเส้นทางของ “ผีแดง” จะคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้จะสดใส หลังจากที่ เวนย์ รูนี่ ยิงขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่ทว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่น้อยหน้าเพราะว่า ซาบาเลต้า ยิงขึ้นนำให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ครึ่งแรกเช่นเดียวกัน แต่ช่วงต้นครึ่งหลัง ควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ส ก็ตีเสมอ 1 – 1 จนกระทั่ง ควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ส ขึ้นนำ 2 – 1 และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็คงจะหมดความหวังกับการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้

แต่ เอดินเซโก้ ก็ยิงตีเสมอ 2 – 2 ในนาทีที่ 92 และแน่นอนว่านาทีประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้นในช่วงนาทีที่ 93.20 หลังจากที่ “ซิตี้” ต่อบอลจากแดนหลังและผ่านมาถึง บาโลเตลลี่ กองหน้าคู่หูของ อเกวโร “กุน” และ บาโลเตลลี่ ก็แอสซิสต์ให้กับ อเกวโร “กุน” ยิงประตูเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 93.20 ส่งผล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ในซีซั่น 2011 – 12 และเป็นประวัติศาสตร์แรกของทีม และเกิดขึ้นจากลูกยิงของ อเกวโร “กุน”

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight