“ผมพยายามนำเขามาเล่นที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน คำพูดของ เดวิด เว็ปส์ อดีตสเก๊าท์ของท็อตแนม ฮอตสเปอร์สที่กล่าวถึงหนึ่งในผู้เล่นที่เชลซีทุ่มเงินซื้อเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เชลซีในยุคใหม่ ภายใต้การนำของกุนซือหนุ่มอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจในฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม เมื่อทำการดันผู้เล่นดาวรุ่งที่ถูกปล่อยยืมตัวขึ้นมาทดแทน อันเนื่องมาจากเมื่อช่วงปีก่อน พวกเขาโดนแบนในตลาดซื้อขายจากการทำผิดกฏการเซ็นต์ผู้เล่นเยาวชนเข้าสู่ทีม
และเมื่อทีม “สิงห์บลู” กลับมาอยู่ในสภาวะปกติ โรมัน อบราโมวิช ก็ใจป๋าจัดเงินเสริมทัพก้อนโต ทำให้พวกเขากระโจนเข้าตลาดนักเตะอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งตลาดรอบที่ผ่านมาพวกเขาถือเป็นทีมที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก
ติโม แวร์เนอร์ , ฮาคิม ซิเย็ค , ไคล ฮาแว็ตซ์ , เอดูอาร์โด เมนดี้ , เบน ชิลเวลส์ และ ติอาโก้ ซิลว่า 6 รายชื่อที่กล่าวมาข้างต้นถูกนำเข้ามาในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แลกกับเงินมูลค่ามากกว่า 200 ล้านยูโร(ประมาณ 7,158 ล้านบาท) เพื่อที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาท้าทายแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล
ดาวิดส์ เว็ปส์ ที่ครั้งหนึ่งเคยทำงานเป็นทีมสเก๊าท์ของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ในสมัยที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ยังคุมทีมอยู่ ออกมาเปิดเผยว่า เขาติดตามนักเตะคนนี้ตั้งแต่สมัยที่เจ้าตัวยังเป็นนักเตะเยาวชน
“ตอนที่ผมเห็นติโม ผมเห็นเขาตั้งแต่สมัยที่เขาเล่นกับสตุ๊ทการ์ท ตอนนั้นเขาอายุ 16หรือ 17 ปีอยู่เลย แต่ว่าเขาแสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เกินอายุของตัวเอง เขาเป็นนักเตะที่ตัวเล็ก แต่มีการเล่นที่ชาญฉลาด การเคลื่อนที่ของเขา มันคล่องแคล่วว่องไวเอามากๆ บางครั้งคุณจะเห็นเขาในกรอบเขตโทษ บางครั้งคุณเห็นเขาฉีกตัวเองออกไปด้านซ้าย เขามีความสามารถในการจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด และเมื่อผมเห็นเขาตอนนั้น ผมคิดว่ามีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชั้นนำได้”
แต่ทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้น เว็ปส์อธิบายถึงเหตุผลว่า ทำไมสเปอร์สถึงไม่สามารถคว้าตัวกองหน้า ผู้ที่ยิงให้ไลป์ซิก 34 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้วมาร่วมทีมได้
“เขาคือนักเตะที่ผมติดตามดูมากที่สุดคนหนึ่ง ผมพยายามนำเขามาเล่นที่ ไวท์ ฮาร์ทเลน แต่ว่าตอนนั้น การตัดสินใจของเขาที่เลือกชาลเก้เป็นทีมแรกในการเล่นอาชีพ และต่อมาเขาก็เลือกย้ายไป ไลป์ซิก หลังจากนั้นมาเขาก็พัฒนาตัวเองกลายเป็นดาวยิงอย่างเต็มตัว”
ปัจจุบัน ติโม แวร์เนอร์ ลงสนามให้เชลซีไปแล้ว 16 นัด ยิง 4 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ และยังสามารถทำผลงานในถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกส์ได้อย่างดี ลงสนามไปแล้ว 3 นัด ยิง 3 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ แต่ทว่าในปัจจุบันเขากลับเจอสถานการณ์ที่แสนยากลำบาก เนื่องจากไม่สามารถเบิกสกอร์ให้กับทีมได้เป็นนัดที่ 11 ติดต่อกัน
แวร์เนอร์มักจะได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย เพื่อหลีกทางให้กับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ความเร็วของแวร์เนอร์เป็นปัญหาต่อบรรดาแนวรับในพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าสิ่งที่เขายังไม่สามารถทำได้เหมือนตอนที่เล่นอยู่ในบุนเดสลีกา นั่นก็คือความเฉียบคมในการทำประตู มีหลากหลายจังหวะที่เขายิงไปชนเสามั่ง คานมั่งและหลายๆครั้งต้องดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้
เป็นการบ้านที่ต้องกลับไปแก้ไขของกุนซืออย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่จำเป็นจะต้องเรียกความมั่นใจของแวร์เนอร์กลับมา หากวัดกันที่ผลงานในปัจจุบัน เงินจำนวน 64 ล้านยูโร(ประมาณ)แลกมากับ 7 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์รวมทุกรายการในตำแหน่งศูนย์หน้านั้นถือว่ายังน่าผิดหวัง แต่ทว่าหากเขาสามารถแก้ไขเรื่องจังหวะจบสกอร์ได้ เชื่อได้เลยว่าแวร์เนอร์จะกลายเป็นดาวยิงที่อันตรายเบอร์ต้นๆของพรีเมียร์ลีก