ในเกมที่แมนฯยูบุกไปเสมอเชลซี 1-1 ประตูภายใต้การคุมทีมของ Michael Carrick นั้น Cristiano Ronaldo เป็นเพียงผู้เล่นสำรอง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าหรือดาวยิงชาวโปรตุเกสอาจจะหมดอนาคตเมื่อสิ้นสุดยุคของ Ole Gunnar Solskjaer
เพราะ Ralf Rangnick กุนซือคนใหม่ของ “ผีแดง” เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า Cristiano Ronaldo อายุมากแล้วและไม่สามารถเล่นท็อปฟอร์มได้เหมือนเดิมอีกต่อไป
และในเกมกลางสัปดาห์ Rangnick ได้เข้ามาชมเกมในสนามด้วย และแมนฯยูเอาชนะอาร์เซนอล 3-2 ประตู และ Ronaldo เหมาทำคนเดียวสองประตู เป็นการทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ฤดูกาลนี้ และเมื่อรวมกับ 6 ประตูในยูฟา แชมเปียนส์ลีก ทำให้ฤดูกาลนี้ดาวยิงวัย 36 ทำไปแล้วในการลงเล่นเพียง 16 นัด
เป็นการยืนยันว่าเขายังคงเป็นสุดยอดกองหน้าของโลกในยุคนี้ และไม่หมดไฟอย่างแน่นอน และคงยากที่กุนซือคนใหม่จะไม่เลือกเขาอยู่ในแผนการสร้างทีมแน่นอน
สองประตูที่ทำได้ในเกมนี้ยังทำให้ Cristiano Ronaldo มีสถิติยิงประตูทั้งหมดถึง 801 ประตูเข้าไปแล้ว เป็นการเล่นในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยเป็นการลงเล่นทั้งหมดรวม 1,095 นัด โดยมีสถิติยิงประตูทั้งหมดดังนี้
นัดที่ลงเล่น ประตู
สปอร์ติ้ง 31 5
แมนฯยู(สมัยแรก) 292 118
เรอัล มาดริด 438 450
ยูเวนตุส 134 101
แมนฯยู(ปัจจุบัน) 16 12
โปรตุเกส 184 115
รวม 1,095 801
และเขายังเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในการเล่นในระดับชาติ ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก และ เรอัล มาดริดอีกด้วย
หากพูดถึงผลงานอย่างเป็นทางการ เป็นรูปธรรมอย่างเห็นเด่นชัดนั้น ต้องถือว่า Ronaldo เป็นศูนย์หน้าคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูได้ถึง 801 ประตู
ก่อนหน้านี้เคยมีการบันทึกไว้ว่า Josef Bican ศูนย์หน้าสายเลือดเชกที่เคยเล่นให้เชโกสโลวะเกียและออสเตรีย เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดของโลกโดยยิงไปได้ทั้งหมด 805 ประตู แต่จากการสำรวจพบว่าหลายประตูที่ทำได้เป็นการเล่นในทีมสำรองและแมตช์ที่ไม่นับเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่ Pele และ Romario ที่เป็นสองดาวยิงในตำนานของบราซิลยืนยันว่ามีสถิติยิงได้ถึง 1,000 ประตู แต่จำนวนประตูที่ทำได้ถ้าหากกลั่นกรองจากเกมอุ่นเครื่องต่างๆ แล้วนั้น จะพบว่าสถิติยิงประตูอย่างเป็นทางการคือ 700 ประตูเท่านั้น
สถิติที่เป็นทางการก็คือ Pele ทำได้ 769 ประตู Romario และ Ferenc Puskas ทำได้ 761 ประตูเท่ากัน
ในขณะที่ Lionel Messi เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัย มีสถิติยิงประตูได้ทั้งหมด 756 ประตู แบ่งเป็นการทำประตูให้ทีมชาติอาร์เจนตินา 80 ประตู ยิงให้บาร์เซโลนา 672 ประตู และยิงให้ปารีส แซงต์แยร์กแมง 4 ประตู
ดาวยิงวัย 36 ยังมีสถิติยิง 5 ทีมได้ถึง 20 ประตูโดยเป็นทีมในสเปนทั้งหมดคือ เซบีญา (27),แอตฯมาดริด (25),เกตาเฟ (23),บาร์เซโลนา และ เซลตา ปิโก้ (20)
และสโมสรในอังกฤษที่โดน Ronaldo ยิงประตูมากที่สุดในทุกรายการที่เจอกันก็คือ สเปอร์ส (11) และ อาร์เซนอล (8)
Rob Green อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษและเป็นคอมเมนเตเตอร์ของบีบีซีแสดงความเห็นว่า แม้จะมีอายุ 36 แล้วแต่ Ronaldo ยังฟิตเต็มร้อย และสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นในเกมกับอาร์เซนอลก็คือเขาสามารถวิ่งกดดันคู่ต่อสู้ได้ นอกจากการยิงประตูแล้วยังพาตัวเองเข้าไปกดดันในกรอบเขตโทษตลอดเวลา และไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะเล่นเข้าระบบกับกุนซือคนใหม่ได้แน่นอน
Alan Shearer อดีตดาวยิงสูงสุดของพรีเมียร์ลีกชื่นชมกองหน้าชาวโปรตุเกสว่าเป็นดาวยิงที่คงจะหาใครมาแทนที่ไม่ได้
“ผมเห็นความมุ่งมั่นของเขา มันเป็นเรื่องยากนะที่จะรักษาฟอร์มการเล่นสุดยอดอย่างที่เขาทำไว้ได้ยาวนานขนาดนี้ ผมคิดว่า Cristiano Ronaldo คือความมหัศจรรย์”
ในขณะที่ Bruno Fernandes เพื่อนร่วมสโมสรและทีมชาติก็มีความเห็นในทำนองเดียวกัน“คำเดียวที่เป็นคำจำกัดความของเขาก็คือความเหลือเชื่อ เรารู้ว่าเขาพัฒนาการเล่นของตัวเองทุกปี Cristiano ต้องการเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบที่สุด และเขารู้วิธีสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองเสมอ” มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสกล่าว