ได้ทำตามฝันของตัวเองสักทีสำหรับ ไมเคิล คาร์ริค ซึ่งความฝันของ คาร์ริค ก็คือต้องการที่จะเป็นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัวโดยการนั่งชมอยู่บนอัศจรรย์ในสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด และแน่นอนว่าหลังจากที่จบเกมการแข่งขันของ พรีเมียร์ลีก นัดที่ 14 ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ยอดทีมแห่งเมืองลอนดอน และพลพรรค “ปีศาจแดง” ก็เฉือนเอาชนะไปได้ 3 – 2 และหลังจากที่จบเกมการแข่งขัน คาร์ริค ก็ได้บอกกับลูกทีมในห้องแต่งตัว ก่อนที่จะแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดว่า (ตัดสินใจที่จะอำลาทีมปีศาจแดง และปิดฉากฐานะบุคลากรของสโมสร และอดีตนักเตะที่เคยร่วมงานมาตลอดระยะเวลา 15 ปี)
สำหรับเฮดโค้ชขัดตาทัพอย่าง คาร์ริค ที่ทำงานสานต่อ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ หลังจากที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งผลงานของ คาร์ริค 3 เกมในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราว ก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่ง คาร์ริค คุมทัพนัดแรกโดยการพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเก็บชัยชนะเหนือ บียาร์เรอัล 2 – 0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และ แมนยู ฯ ก็ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่เกมที่ 2 คาร์ริค จะคุมทัพ “ปีศาจแดง” บุกไปแบ่งแต้มกับ เชลซี ในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ ด้วยสกอร์ 1 – 1 และในเกมสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก ที่ คาร์ริค พาลูกทีมเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 3 – 2 ซึ่งสถิติของ คาร์ริค ตลอดระยะเวลา 3 เกมที่ผ่านมา ที่เรียกได้ว่าสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก
และหนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่เจ้าตัวได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของสโมสร นั่นก็คือเป้าหมายที่ คาร์ริค วางไว้อยู่แล้วที่จะลาออกจากตำแหน่ง เพราะการทำงานขัดตาทัพเป็นระยะเวลา 3 เกม ก็เพื่อที่จะรอส่งงานต่อให้กับ (รังนิก) ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่จะมารับช่วงต่อ และตอนนี้ คาร์ริค ก็ได้ประกาศออกจากการทำงานกับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่จบเกมการแข่งขันในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คาร์ริค เป็นผลผลิตเด็กปั้นของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และเจ้าตัวก็ย้ายมาร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ก่อนที่ในปี 2006 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกระชาก คาร์ริค เข้าสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด และรวมทั้งหมด คาร์ริค ลงสนามในฐานะนักเตะ 464 เกม คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ “ผีแดง” 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และ เอฟเอคัพ อีก 1 สมัย และถ้วยรายการอื่น ๆ อีกมากมายในช่วงที่ คาร์ริค เป็นนักเตะ ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2018 และทำงานเป็นมือขวาทีมงานสต๊าฟโค้ชในยุคของ โซเซ มูรินโญ และ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ก่อนที่จะขึ้นมาทำงานเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวคุมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 นัด และประกาศอำลาการทำงานร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะบุคลากร ซึ่งเป็นระยะเวลารวมกว่า 15 ปี