การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 มีขึ้นที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พ.ค.นี้ โดยทัพนักกีฬาไทยตั้งเป้าคว้าเหรียญทองไปครองให้ได้ถึง 116 เหรียญทอง
แต่เหรียญทองที่มีความสำคัญที่สุดก็คือเหรียญจากการแข่งขันของ “ฟุตบอลชาย” เพราะถือว่าเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีที่มีความสำคัญเสมอมา
ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ไปครองได้ถึง 16 สมัย มากที่สุดในชาติอาเซียนด้วยกัน ดังนี้
(ปี 1965 ครองแชมป์ร่วมกับเมียนมา, 1975, 1981, 1983, 1985, 1993, 1995, 1997, 1999, 2001, 2003, 2005, 2007, 2013, 2015, 2017)
อย่างไรก็ตามในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เวียดนามได้เหรียญทอง ส่วน “แชมป์เก่า” อย่างทีมชาติไทยร่วงตกรอบแรก
เป้าหมายในครั้งนี้ของ “ช้างศึก” จึงต้องเป็นการคว้าเหรียญทองเท่านั้น
กุนซือที่ทำหน้าที่คุมทีมชาติไทยสู้ศึก “ฮานอยเกมส์” ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใคร มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือเชื้อสายบราซิลที่เติบโตในเยอรมนี และเป็นผู้พาทีมชาติไทยชุดใหญ่คว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup 2020 ไปครอง
หากแต่งานนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นการแข่งขันของทีมชาติในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีซึ่งต้องยอมรับว่ามาตรฐานของหลายชาติอาเซียนไม่แตกต่างกันมากนัก
ประกอบกับ มาโน่ โพลกิ้ง เข้ามาคุมทีมชุดนี้แทนที่ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ แบบไม่ทันตั้งตัว เพราะก่อนหน้านี้เซ็นสัญญาคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่เท่านั้น และการคัดเลือกตัวนักเตะก็มีก่อนที่เขาจะมารับหน้าที่คุมทีมเสียด้วย
ในซีเกมส์เปิดโอกาสให้แต่ละทีมใช้นักเตะอายุเกิน 23 ปีร่วมทีมมาได้สามคน ซึ่งของ “ช้างศึก” ใช้เต็มโควต้าได้นักเตะมากประสบการณ์มาร่วมทีม 3 คนคือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด),วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ จาก “กิเลนผยอง” ถือว่าเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งพอสมควร
แต่นัดแรกในศึกลูกหนังซีเกมส์ ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายพลาดท่าพ่ายมาเลเซีย 1-2 ประตู ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ โจนาธาน เข็มดี มาโดนไล่ออกตั้งแต่ครึ่งแรก และทำให้ทีมชาติไทยต้องเอาชนะในนัดที่เหลือให้ได้ทั้งหมด
และในนัดที่สอง “ช้างศึก” จึงคืนฟอร์มเก่งถล่ม สิงคโปร์ 5-0 ประตู และเหลือเกมการเตะอีกสองนัดในการเจอกับกัมพูชาและสปป.ลาว ซึงไม่น่าจะมีอะไรให้ต้องกังวลมากนัก
ทีมชาติไทยชุดนี้มีความน่าสนใจอีกประการก็คือ มีนักเตะลูกครึ่งติดอยู่ในทีมมากมาย ประกอบด้วย โจนาธาร เข็มดี (ไทย-เดนมาร์ก), เบนจามิน เดวิส (ไทย-อังกฤษ), วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ (ไทย-สวีเดน) และ พาทริก กุสตาฟส์สัน (ไทย-สวีเดน)
นัดแรก พาทริก กุสตาฟส์สัน กองหน้าร่างสูงใหญ่ของเชียงใหม่ เอฟซี ทำประตูได้ และเป็นหัวหอกตัวเป้าที่ครองบอล เก็บบอลดี น่าจะเป็นอาวุธสำคัญ
ส่วน โจนาธาร เข็มดี ปราการหลังวัย 20 ที่โดนใบแดงในเกมแรกนั้น ค้าแข้งอยู่กับ โอบี โอเดนเซ และเป็นกองหลังกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติไทยชุดยู-23 ผ่านรอบคัดเลือกศึกชิงแชมป์เอเชียมาแล้ว เมื่อพ้นโทษแบนคงได้กลับมาลงเล่นแน่นอน
อีกคนที่แฟนบอลชาวไทยให้ความสนใจก็คือ เบนจามิน เดวิส ดาวเตะลูกครึ่งที่เล่นอยู่กับอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ในอังกฤษ และเคยเล่นให้ “ช้างศึก” ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบสุดท้ายมาแล้ว เดวิส เปล่งประกายในนัดที่สองเมื่อใช้ความเร็วเล่นงานแนวรับสิงคโปร์จนป่วน และทำให้ทีมได้จุดโทษ และเป็นคนสังหารให้ทีมชาติไทยได้ประตูขึ้นนำในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ก่อนสกอร์จะไหลห่างในครึ่งหลัง
เบนจามิน เดวิส อาจเป็นดาวเด่นในศึกลูกหนังใน “ฮานอยเกมส์” หนนี้ก็เป็นได้ อาจจะเหมือนกับ “อัลเฟรด” เนติพงศ์ ศรีทองอินทร์ ที่ช่วยให้ “ช้างศึก” คว้าเหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 1995 ก็เป็นได้
โพลกิ้งกล่าวหลังเอาชนะสิงคโปร์ว่า ทีมชาติไทยน่าจะเริ่มเข้าที่นับจากนี้ นัดแรกอาจจะดูไม่เข้าที่เท่าไหร่นัก เพราะมีโอกาสซ้อมแบบฟูลทีมได้เพียงแค่ 20 วัน และก่อนจะถึงนัดต่อไปก็จะได้พักยาวคงมีโอกาสซ้อมเต็มที่
นักเตะในทีมชุดนี้คืออนาคตใหม่ของ “ช้างศึก” นอกเหนือไปจากบรรดาลูกครึ่งแล้ว เอกนิษฐ์ ปัญญา,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นแกนหลักสำคัญของทีม และผลงานเข้าตามากในเกมถล่ม “ลอดช่อง”
อย่างไรก็ตาม โพลกิ้ง ยืนยันว่าไม่สามารถมองข้ามทุกทีมที่เจอได้ กัมพูชา ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ทีมต่อไปแสดงให้เห็นว่าพัฒนาขึ้นมากภายใต้การคุมทีมของ เคย์สุเกะ ฮอนดะ อดีตดาวดังทีมชาติญี่ปุ่น ทีมไทยต้องเล่นอย่างมีสมาธิ
“ผมยังไม่อยากให้พูดถึงการเล่นในรอบตัดเชือกเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะเรายังเหลือเกมยากอีกสองเกมในรอบแรก ส่วนในรอบต่อไปเราจะเจอกับใครก็ไม่อาจคาดเดาได้”
แต่สำหรับแฟนบอลชาวไทย คงอยากเห็น “ช้างศึก” ดวลเดือดกับ “เจ้าภาพ” เวียดนาม โดยมีเหรียญทองเป็นเดิมพันมากที่สุดแน่นอน
