อาจจะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ สำหรับนักฟุตบอลอาชีพหนึ่งคนที่จะอยู่ในแวดวงลูกหนังถึง 3 ทศวรรษหรือ 30 กว่าปีที่ผ่านมา และยังคงเดินเหินอากาศทำผลงานได้ดีสวนทางกับอายุ ใช่แล้ว! ที่เราพูดถึงนั่นก็คือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่ในปัจจุบันนี้ผู้รักษาประตูจากแดนมักกะโรนี ยังคงลงสนามเฝ้าเสาให้กับสโมสรปาร์ม่า ซึ่งเป็นสโมสรที่เจ้าตัวเริ่มต้นลีกอาชีพในวัย 17 ปี ก่อนที่จะโลดแล่นเป็นผู้รักษาประตูชื่อดังของโลก ก่อนที่จะย้ายกลับไปร่วมทัพ ปาร์ม่า อีกครั้งในปี 2021 และในปัจจุบันนี้ บุฟฟ่อน ในวัย 44 ปีก็ยังคงลงเฝ้าเสาอย่างมีประสิทธิภาพ
หากจะพูดถึงแฟนบอลรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ คงรู้จักชื่อของ บุฟฟ่อน ดีแน่นอนเพราะหากย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ในช่วงที่แวดวงลูกหนังในประเทศไทยยังพูดถึงชื่อผู้รักษาประตูอย่าง บุฟฟ่อน ก็ยังคงรอหนังสือพิมพ์ตีพิมพ์แบบข้ามวันค่อยได้ติดตามข่าวสาร จนกระทั่งในปัจจุบันนี้สื่อโซเชียลอย่างเช่น Facebook หรือ Twitter รวมถึงช่อง YouTube ต่างก็อัพเดทแบบนาทีต่อนาที และชื่อของ บุฟฟ่อน ก็ยังอยู่บนสื่อกีฬาเช่นเดิม
และต้องบอกได้เลยว่าในวัย 44 ปี บุฟฟ่อน ยังคงทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือว่ายังคงโชว์ซุปเปอร์เซฟด้วยปฏิกิริยาที่ว่องไว และหากจะเปรียบเทียบกับผู้รักษาประตูในปัจจุบันนี้ แน่นอนว่า บุฟฟ่อน ยังคงเหาะเหินเดินอากาศได้เหมือนกับผู้รักษาประตูทีมดังอย่าง ดาบิด เด เคอา ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ว่าจะเป็น แอแดร์ซง ของ Manchester City ซึ่งกลุ่มผู้รักษาประตูเหล่านี้อายุน้อยมากกว่า บุฟฟ่อน 10 กว่าปีแน่นอน
สำหรับนักเตะรายอื่น ๆ รวมถึงผู้รักษาประตูที่ห้อยถุงมือไป แล้วอาจจะเรียกว่าเป็นตำนานของวงการลูกหนัง แต่สำหรับ บุฟฟ่อน ถึงแม้ว่ายังลงสนามในปัจจุบันนี้ แต่ทว่าประวัติศาสตร์ของ บุฟฟ่อน เริ่มต้นตั้งแต่ที่เขาลงสนามนัดแรกให้กับ ปาร์ม่า ในวัย 17 ย่าง 18 ปี ในช่วงปี 1995 ที่ก้าวเข้าสู่นักเตะอาชีพให้กับสโมสร บุฟฟ่อน ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงเกมแรกให้กับสโมสรปาร์ม่า ในปี 1995 และเจ้าตัวก็เริ่มต้นสร้างประวัติศาสตร์ในเกมแรกทันที หลังจากที่ป้องกันประตูแบบอุตลุด และในเกมนั้นก็เสมอ 0 – 0 ซึ่งเกมในนัดแรกกับการเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานผู้รักษาประตูจากแดนมักกะโรนี เป็นเกมที่พวกเขาพบกับ เอซี มิลาน ซึ่งถ้าหากเทียบชื่อชั้นในตอนนั้น “ยักษ์ใหญ่แดงดำ” คือยอดทีมแห่งยุคที่มีนักเตะอย่าง จอร์จ เวอาห์, โรแบร์โต้ บาจโจ้ และ อิวาน ซาวิเซวิช
แต่ทว่าจากผลเสมอ 0 – 0 นั่นไม่ได้หมายความว่า 10 ผู้เล่นของ ปาร์ม่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หรือว่าต่อกรกับ เอซี มิลาน ได้ดีแต่อย่างใด และต้องยกให้ บุฟฟ่อน ที่เซฟได้ทุกรูปแบบ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชื่อของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ และเริ่มถูกพูดถึงจนกระทั่งในปัจจุบันนี้ ที่ผ่านระยะเวลามามากถึง 30 ปี ในบ้านวงลูกหนังชื่อของ บุฟฟ่อน ก็ยังถูกพูดถึงเช่นเดิม