ปารีสฯต่อสัญญา Mbappe ท้าทาย กฏ Financial Fair Play
วันที่ : 27 May 2022 ดู :
Mbappe

ปารีสฯต่อสัญญา Mbappe ท้าทาย กฏ Financial Fair Play

หากไม่เกมสุดดรามาที่ Manchester City โกงความตายแซงเอาชนะ Aston Villa 3-2 ประตูคว้าแชมป์ Premier League ไปครอง หรือการกลับมาคว้าแชมป์ Serie A ในรอบ 11 ปีของ AC Milan แล้ว ข่าวที่แฟนบอลทั่วโลกให้ความสนใจคงไม่มีอะไรเกิน Kylian Mbappe ตัดสินใจอยู่กับ Paris Saint-Germain ต่อไปแทนที่จะย้ายไปอยู่กับ Real Madrid

และคาดว่าเส้นทางการย้ายไปอยู่ “ราชันชุดขาว” ของหัวหอกวัย 23 ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต เพราะได้ปฎิเสธข้อเสนอของหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

ครั้งล่าสุดนี้ดูเหมือนว่า Real Madrid ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าการเจรจาจะประสบความสำเร็จ เพราะการเจรจาเรื่องสัญญาเหมือนจะบรรลุข้อตกลงได้แล้ว โดยเงื่อนไขสำคัญก็คือแชมป์ La Liga ในฤดูกาลนี้จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ของดาวเตะคนดังเลย ยอมให้รับรายได้ส่วนนี้ไปเต็มๆ

แต่ในที่สุด Kylian Mbappe ที่เคยแสดงความต้องการย้ายทีมตั้งแต่ก่อนหมดสัญญากลับกลายเป็นว่ายอมขยายสัญญาอยู่กับ PSG ต่อไปอีก 3 ปี

เงื่อนไขสำคัญนั้นก็คือ ข้อเสนอที่ได้รับนั้นยังไม่เคยมีนักฟุตบอลคนไหนในโลกเคยได้รับมาก่อน

แม้จะยังไม่มีจะยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าค่าเหนื่อยของกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสในการอยู่กับต้นสังกัดเดิมต่อไปนั้นจะตกสัปดาห์ละ 1 ล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าตอนที่ Lionel Messi ย้ายมา Paris Saint-Germain เสียอีก ซึ่งได้รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 600,000 ปอนด์

และตอนนี้ Neymar กองหน้าทีมชาติบราซิลก็จะกลายเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยเป็นอันดับ 3 ในทีม ด้วยค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 490,000 ปอนด์

นอกจากนั้นมีรายงานว่า Mbappe จะได้เงินกินเปล่าในการต่อสัญญาใหม่เป็นเงินก้อนโต และรวมไปถึงว่าจะมีส่วนในการร่วมพิจารณาในการคัดสรรผู้จัดการทีมคนใหม่ รวมไปถึงร่วมตัดสินใจร่วมกับผู้บริหารสโมสรในการซื้อและขายนักเตะของทีมด้วย

ช่างเป็นเงื่อนไขที่น่าทึ่งเหลือเกินว่านักเตะคนหนึ่งจะได้รับรายได้และบทบาทในทีมมากขนาดนี้

ในขณะที่ Nasser Al-Khelaifi ประธานสโมสร Paris Saint-Germain ยืนยันว่าการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่อง “เงิน” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะ Real Madrid ก็มีศักยภาพที่จะจ่ายเงินได้มากกว่าเสียอีก เพียงแต่แผนการในอนาคตร่วมกันทำให้ดาวยิงวัย 23 เลิกล้มความคิดที่จะย้ายทีม

และคนที่โมโหโกรธามากที่สุดในเรื่องนี้คงจะไม่มีใครเกินหน้า Florentino Perez ประธานสโมสร Real Madrid เพราะเหมือนว่าไม่ได้วางแผนจะมองหาคนอื่นนอกจาก Mbappe ไว้เลย

และไม่เพียงเท่านั้น La liga ของสเปนก็เดินเกมต่อทันที โดยยืนยันว่าจะทำส่งหนังสือร้องเรียนถึง Uefa เพราะเห็นว่าการต่อสัญญาของดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสกับ PSG นั้น นับเป็นการใช้เงินเปลืองตัว การทุ่มเงินอย่างมหาศาลเพียงเพื่อสนองความต้องการของตัวเองนั้นยังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเสถียรภาพด้านการเงินของวงการลูกหนังยุโรปทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ ทีมยักษ์ใหญ่ในลีกเอิงก็ใช้เงินแบบฟุ่มเฟือย มีผลขาดทุนสะสมถึง 700 ล้านยูโร

แต่ถึงจะขาดทุนบักโกรกจากการบริหารสโมสรเช่นนี้ก็ยังไม่หยุดยั้งแผนงานใช้เงินซื้อความสำเร็จ

แล้วการกระทำดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบต่อกฎ FINANCIAL FAIR PLAY ที่ Uefa กำหนดขึ้นมาหรือไม่

FFP หรือ UEFA Financial Fair Play Regulations ที่สามารถเรียกเป็นภาษาได้ว่าเป็น “กฎการเงิน” เพื่อใช้ควบคุมการใช้จ่ายเงินของสโมสรฟุตบอลในยุโรปไม่ให้ใช้จ่ายเงินเกินตัว ซึ่งหากไม่มีเพดานกำหนดออกมาแล้วก็สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่นั้นถึงขั้นล้มละลายได้

โดยกฎดังกล่าวนี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2009 แต่ก็ดูเหมือนว่ายังมีสโมสรยักษ์ใหญ่ ทุนหนาพยายามแหกกฎดังกล่าวอยู่เสมอ

เจตนาที่ Uefa กำหนด Financial Fair Play ก็ด้วยหวังว่าสโมสรฟุตบอลดำเนินการบริหารด้วยการให้สโมสรสร้างรายได้มากกว่าราย และไม่ต้องการให้รายจ่ายสูงเกินไปจนเป็นหนี้สินก้อนโต แต่แนวคิดดังกล่าวก็ไม่สอดคล้องกับแนวทางการบริหารของสโมสรฟุตบอลใหญ่ในลีกใหญ่ของยุโรป

เพราะปัจจุบันสโมสรฟุตบอลใหญ่ก็มักจะมีตัวเลขแดงเกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่การบริหารก็ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้

หากยึดตาม FFP จะพบว่าทีมยักษ์ใหญ่ไล่มาตั้งแต่ Chelsea,Manchester City และรวมมาถึง Paris Saint-Germain ต่างก็ละเมิดกฎนี้ทั้งสิ้น แต่ทาง Uefa ก็ดูเหมือนจะไม่ดำเนินการลงโทษใดๆ ได้ นอกจากทำรายงานกล่าวเตือน

หรืออาจจะมี “ไม้แข็ง” ลงโทษเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งเกิดขึ้นกับ 2 ทีมที่มีทุนหนาจากตะวันออกกลางให้การสนับสนุนอยู่คือ Manchester City,Paris Saint-Germain ซึ่งบทลงโทษก็คือการปรับเงินเท่านั้น

กรณีของ Kylian Mbappe จึงพอจะอนุมานได้ว่าเมื่อถึงที่สุดแล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปแบบสายลมพัดผ่าน อย่างมากก็คือการจ่ายเงินค่าปรับ แม้จะเป็นเม็ดเงินก้อนโตแต่ทีมเศรษฐีอย่าง PSG ไม่มีปัญหาแน่นอน

การท้าทายของสโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่กับ Financial Fair Play จึงน่าจะดำเนินต่อไป

และไม่มีอะไรในกอไผ่เหมือนเดิม

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight