เมื่อพูดถึงสโมสรฟุตบอลที่มีแฟนบอลกระจายไปทั่วโลกเป็นลำดับต้นๆคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือหนึ่งในนั้น ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษทีมนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับแฟนบอลปิศาจแดงรุ่นใหม่แล้วนี่คือสิ่งที่คุณควรทราบเป็นอย่างยิ่งกับเรื่องราวของสโมสรแห่งนี้
ก่อตั้งสโมสรในชื่อ “นิวตัน ฮีธ”
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดฟุตบอลคลับ ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1870 โดยการร่วมมือกันของพนักงานการรถไฟ โดยพวกเขาใช้ชื่อเดอะ แลงคาเชียร์ แอนด์ ยอร์คเชียร์ เรียลเวย์ ฟุตบอล คลับ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “นิวตัน ฮีธ” ในปี 1878 ซึ่งในขณะนั้นถือว่าสถานการณ์ของทีมค่อนข้างกระท่อนกระแท่นมากถึงขั้นล้มละลาย จนกระทั่งโชคดีที่ได้ผู้อำนวยการโรงกลั่นเบียร์ที่ชื่อ จอห์น เดวี่ส์ เข้ามาเป็นประธานสโมสรและเปลี่ยนชื่อทีมเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจนกระทั่งปัจจุบันนี้
แม็ตต์ บัสบี้ ชายผู้เป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประสบปัญหาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสนามโอลเทรฟฟอร์ดไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ต้องใช้สนามเหย้าเดียวกันกับทีมร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งในขณะนั้นใช้สนามเมนโร้ด ประกอบกับนักเตะในทีมที่มีอายุมากขึ้น ทำให้ทีมต้องแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง แมตต์ บัสบี้ แต่แล้วเขาผู้นี้นี่เองที่เป็นผู้พาทีมที่ประกอบไปด้วยเด็กท้องถิ่นเป็นหลักผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในฤดูกาล 1951-52 นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของยุค บัสบี้ เบ๊บส์อันยิ่งใหญ่ แต่ความยิ่งใหญ่ของพวกเขาก็ก็ยังมีวิกฤติใหญ่เข้ามาแทรกนั่นคือโสกอนาฏกรรมเครื่องบินตกที่มิวนิค แต่บัสบี้ชายผู้ไม่ยอมละความฝันของตัวเองในการพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเป็นเจ้ายุโรป ก็เริ่มสร้างทีมขึ้นใหม่ โดยมี จอร์จ เบสต์ , เดนนิส ลอว์ , บ๊อบบี้ ชาร์ลตันเป็นกำลังหลักที่แจ้งเกิดมาใหม่จนกระทั่งในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จก่อนที่ แม็ตต์ บัสบี้ จะวางมือจากทีมไป
อเล็ก เฟอร์กูสัน ผู้กอบกู้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่ความยิ่งใหญ่ในยุค 90
หลังจากการวางมือของ แม็ตต์ บัสบี้ แล้วนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กลับสู่ความล้มเหลวอีกครั้ง ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่เข้ามารับงานต่อ ต่างก็ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่จนทีมต้องตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 2 ก่อนจะกลับมาคืนสังเวียนดิวิชั่น 1 ได้ในทศวรรษ 80 และการแต่งตั้ง รอน แอ๊ดกินสัน พร้อมการดึงตัว ไบรอัน ร็อบสัน เข้ามาสู่ทีม แต่ผลงานก็ยังไม่น่าประทับใจจนทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ชายที่ชื่อ อเล็ก เฟอร์กูสัน โยกจากฝั่งสก็อตแลนด์มานั่งกุมบังเหียนที่แมนเชสเตอร์ ก็ยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจจนหลายๆฝ่ายเริ่มทนไม่ไหวอยากให้ปลดออกจากกุนซือ แต่จนแล้วจนรอดเฟอร์กี้ ก็นำพาทีมสู่ความยิ่งใหญ่โดยเฉพาะการสร้างนักเตะคลาสออฟ 90 และการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 1999 นำมาซึ่งความน่าเกรงขามของปิศาจแดงไปทั่วโลก จากอดีตจนถึงปัจจุบันประวัติศาสตร์สอนให้รู้ว่าทุกอย่างมีขึ้นมีลงจะหวังให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างเดียวก็คงไม่ได้ ทีมที่คุณรักผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านความยากลำบากมามากเท่าใด เพราะฉะนั้นแฟนบอลรุ่นใหม่อย่าพึ่งท้อใจ สักวันความยิ่งใหญ่จะกลับมาสู่เรา