Calcio Serie A ฤดูกาล 2021-22 จบไปอย่างเข้มข้นและต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนที่จะเป็น AC Milan คว้าแชมป์ไปครองโดยการเฉือนเอาชนะทีมร่วมเมืองและเป็นแชมป์เก่าอย่าง Inter Milan ไปหวุดหวิด
เป็นการกลับมาคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี โดยก่อนหน้าได้แชมป์ Serie A หนสุดท้ายเมื่อฤดูกาล 2010-11
และเป็นสัญญานเตือนว่า “ปีศาจแดงดำ” กำลังกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และอาจไม่ได้แค่เป้าหมายเป็นแชมป์ลีกเท่านั้น แต่เป้าหมายก็คือการกลับไปลุ้นแชมป์ UEFA Champions League
คล้อยหลังการคว้าแชมป์ Serie A ก็มีข่าวใหญ่ตามมาเมื่อ เรดเบิร์ด แคปิตอล พาร์ทเนอร์ส กลุ่มทุนใหญ่จากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรด้วยเม็ดเงินมูลค่า 1.2 พันล้านยูโร หรือราว ราว 4.41 หมื่นล้านบาท
RedBird Capital Partners ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่ลงทุนใน Fenway Sports Group ที่เป็นเจ้าของทีม Liverpool นั่นเอง และคาดว่าจะมีการเทเงินก้อนโตเพื่อเสริมนักเตะให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เพราะในอดีต “ปีศาจแดงดำ” เคยเป็นหนึ่งในสุดยอดทีมของยุโรปมาก่อน ช่วงพีกสุดสุดจะเรียกว่าเป็นทีมไร้เทียมทานก็ไม่ผิดนัก
“ยุคทอง” ของ AC Milan น่าจะอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 90 โดยเริ่มจาก Arrigo Sacchi กุนซือชาวอิตาเลียนที่คุมทีมในช่วงระหว่างปี 1987-90
Sacchi ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากก็คือคว้าตัว Ruud Gullit และ Marco Van Basten มาจาก Ajax และเพียงฤดูกาลแรกที่คุมทีมก็สามารถพา Milan คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้มาครอง
จุดเด่นของทีมอีกอย่างก็คือแนวรับของทีม ซึ่งประกอบไปด้วย Mauro Tassotti, Franco Baresi, Alessandro Costacurta และ Paolo Maldini ซึ่งในฤดูกาลแรกที่ Sacchi คุมทีมนั้น Milan เสียไปเพียง 14 ประตูเท่านั้นในลีก
ต่อมา Frank Rijkaard มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์เข้ามาเสริมทีมอีก กลายเป็นพลังของ “สามทหารเสือ” ที่ช่วยให้ “ปีศาจแดงดำ” ได้แชมป์ European Cup ถึง 2 สมัยในฤดูกาล 1988-89 และ 1989-90
หลังคุมทีมได้ 4 ปี Arrigo Sacchi ก็ลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปคุมทีมชาติอิตาลี และคนที่มาแทนก็คือ Fabio Capello ที่พาทีมก้าวไปข้างหน้าจนกลายเป็นทีม “ไร้เทียมทาน” ไปอย่างแท้จริง
“ปีศาจแดงดำ” ในยุคของ Capello มีเกมรับที่เหนียวแน่นมากที่สุดในยุโรป และมีเกมเพรสซิ่งที่กดดันคู่ต่อสู้จนคลายพิษสงไม่ออก ประกอบกับ Marco Van Basten ที่ไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนยิงประตูได้ต่อเนื่องกลายเป็นดาวซัลโวด้วยประตูรวม 25 ประตู และ Milan คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้เป็นสมัยที่ 12
ที่สำคัญในฤดูกาล 1991-92 ที่ได้แชมป์ลีกนั้นพวกเขาไม่แพ้ใครเลย และผ่านมาจนถึงฤดูกาล 1992-93 ก็รักษาสถิติไม่แพ้ใครได้ยาวนานก่อนจะไปสะดุดพ่าย Parma 0-1
พวกเขาไม่แพ้ใครยาวนานถึง 58 นัดซึ่งใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปยังไม่เคยทำลายสถิตินี้ลงได้เลย
ในยุคของ Fabio Capello นั้น “ปีศาจแดงดำ” ได้แชมป์สคูเดตโต้ 4 สมัย และแชมป์ UEFA Champions League อีก 1 สมัย ก่อนจะอำลาทีมเมื่อ 30 มิ.ย.1996
เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ AC Milan