ย้อนดู 5 สถิติการชนะกัน “ถล่มทลาย” ที่สุดในพรีเมียร์ลีก !!
วันที่ : 18 Feb 2021 ดู :
Manchester United 9-0 Southampton

ย้อนดู 5 สถิติการชนะกัน “ถล่มทลาย” ที่สุดในพรีเมียร์ลีก !!

ณ ปัจจุบันเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ได้กลายเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมเป็นเบอร์หนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ของเม็ดเงินในการลงทุนที่มหาศาล รวมไปถึงกลายเป็นแหล่งร่วมแข้งซุปเปอร์สตาร์มากมายที่ย้ายเข้ามาหาความท้าทายในดินแดนลูกหนังเมืองผู้ดี

การที่ลงเล่นในทุกสัปดาห์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกทีมต้องการสามคะแนนและทำอันดับให้ดีที่สุดในการแข่งขันแต่ละฤดูกาล เพราะว่ามันหมายถึงจำนวนเม็ดเงินที่จะได้รับเข้าสู่สโมสร รวมไปถึงโบนัสของนักเตะแต่ละคนที่ทำสัญญากันไว้ หากแต่ว่ามักจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทั้งการที่ทีมรองบ่อนพลิกชนะทีมลุ้นแชมป์หรือจะเป็นการที่ทีมใหญ่ไล่ถล่มทีมเล็กแบบไม่ไว้หน้า วันนี้เราจะมาย้อนดู 5 เหตุการณ์สำคัญที่เกิดการไล่ยิงอีกฝั่งจนขาดลอยในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก

อันดับที่ 5 นิวคาสเซิ่ล 8-0 เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (ดิวิชั่น 1 ปี 1999)
เกมส์เปิดหัวพรีเมียร์ลีกที่นิวคาสเซิ่ลเปิดรัง เซนต์ เจมส์ พาร์ค รับมือ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์นั้นไม่มีใครคาดคิดว่าสกอร์จะออกมาขาดลอยถึงขนาดนี้ ห้าประตูของอลัน เชียร์เรอร์(มาจากจุดโทษสองลูก) บวกกับ อาร่อน ฮิวจ์ , แกรี่ สปีด และคีรอน ดายเออร์ ถล่มผู้มาเยือนอย่างขาดลอย แต่ทว่า รุด กุลลิด กุนซือสาลิกาดงในขณะนั้นกลับพาทีมแพ้ 4 จาก 5 เกมส์ในช่วงออกสตาร์ททำให้เขาจำเป็นต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้กุนซือ และท้ายที่สุดปีนั้นนิวคาสเซิ่ลจบเพียงอันดับที่ 11 แต่ทว่าเราก็ไม่สามารถลืมการเปิดตัวที่สวยงามขนาดนี้ของพลพรรคสาลิกาดงไปได้เลย

อันดับที่ 4 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 9-1 วีแกน (พรีเมียร์ลีก 2009)
เกมส์ในนัดนี้ถูกบันทึกว่าเป็นเพียงแค่ครั้งที่สองเท่านั้นในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทีมนึงสามารถยิงได้ถึง 9 ประตูในเกมเดียว โดยไก่เดือยทองสามารถเปิดบ้านไล่ถล่มวีแกนได้ 9-1 ทั้งๆที่ในครึ่งเวลาแรกพวกเขาออกนำเพียงแค่ 1-0 เท่านั้นจากการยิงของ ปีเตอร์ เคร้าช์ แต่พอครึ่งหลังเริ่มมาพวกเขาก็ดาหน้าเข้าใส่ผู้มาเยือนอย่างไร้ความปราณี เจอร์เมนท์ เดโฟ เหมาคนเดียว 5 ประตูก่อนที่จะเป็น อารอน เลนน่อน , เดวิด เบนลียส์ และ นิโก้ ครันชา ยิงคนละประตูส่งผลให้ไก่เดือยทองเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ และเมื่อจบฤดูกาลนั้นพวกเขาก็สามารถทำอันดับไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1962 เลยทีเดียว

อันดับที่ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9-0 อิปสวิช ทาวน์ (ดิวิชั่น 1 ปี 1995)
ย้อนกลับไปในปี 1995 ใครจะไปเชื่อว่า อิปสวิช ทาวน์เคยยัดเยียดความปราชัยให้กับปีศาจแดงในเกมแรกที่เจอกันด้วยสกอร์ 3-2 แต่ทว่ากลับเป็นหนังคนละม้วน เมื่อพลพรรคปีศาจแดงเปิดบ้านล้างแค้นได้ด้วยสกอร์มโหฬาร 9-0 ซึ่งเกมนั้น แอนดี้ โคล เหมาคนเดียว 5 ประตู มาร์ค ฮิวจ์ เหมาสอง ก่อนที่จะเป็น รอย คีน และ พอล อินซ์ ทำคนละประตูช่วยให้ปีศาจแดงเก็บ 3 คะแนนอย่างสวยหรู ซึ่งส่งผลให้ฤดูกาลนั้น อิปสวิช พวกเขาต้องตกชั้นและสกอร์นี้ก็กลายเป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดตลอด 103 ปีของปีศาจแดง

อันดับที่ 2 เซาธ์แธมตัน 0-9 เลสเตอร์ ซิตี้(พรีเมียร์ลีก 2019)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เลสเตอร์ ออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรง พวกเขาเดินหน้าเก็บ 3 คะแนนได้หลายเกม โดยเกมที่น่าจดจำที่สุดคือการที่ยิงได้ถึง 9 ประตูในการออกไปเยือน เดอะ เซนต์ ซึ่งจุดเปลี่ยนของเกมส์นี้ก็คือ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ถูกใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 10 ของการแข่งขัน ทำให้เลสเตอร์ดาหน้าบุกใส่เซาธ์แธมตันอย่างไม่ปราณี

เบน ชิลเวลล์ ยิงเปิดหัวยูริ เทเลมองส์ ,อโยเซ่ เปเรซ ทำคนละประตู ก่อนที่คู่หูอย่าง เจมส์ แมดดิสัน และ เจมี่ วาร์ดี้ ต่างช่วยกันทำคนละแฮตทริก ช่วยให้เลสเตอร์บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้เจ้าบ้านอย่างขาดลอย ซึ่งชัยชนะในนัดนี้การเป็นการชนะนอกบ้านในสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดของพรีเมียร์ลีก

อันดับที่ 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9-0 เซาธ์แธมตัน (พรีเมียร์ลีก 2021)
เหตุการณ์ในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 22 ที่ผ่านมา โชคไม่ดีเสียเลยที่ผู้โชคร้ายในเกมนี้เป็น เซาธ์แธมตัน อีกแล้ว พวกเขาต้องพบกับฝันร้ายสองฤดูกาลติดต่อกัน การถูกไล่ออกของ อเล็กซานเดอร์ แยนเควิช ที่พบกับฝันร้ายถูกใบแดงไล่ออกจากการยันใส่ สก็อต แม็คโทมิเนย์ ในเกมประเดิมสนามของเขากับทีมชุดใหญ่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ

พลพรรคปีศาจแดงใช้เวลาแค่ 16 นาทีรัวยิง 4 ประตูในครึ่งแรกจาก วานบินซาก้า , มาร์คัส แรดฟอร์ช และเอดิสัน คาวานี่ ก่อนที่ แยนส์ เบเนเล็กจะสกัดเข้าประตูตัวเอง ถัดมาครึ่งหลัง มาร์กซิยัล เหมาสองประตู , แม็คโทมิเนย์และเจมส์ยิงคนละประตู ก่อนที่จะเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดสสังหารจุดโทษเข้าไป ซึ่งก่อนที่จะเกิดจุดโทษนั้น ทีมนักบุญต้องเหลือผู้เล่น 9 คนจากจังหวะที่ เบเนเล็กไปทำฟาวล์มาร์กซิยัล ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน จะควักใบแดงไล่เจ้าตัวออกจากสนาม จบเกมส์ด้วยสกอร์ 9-0

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight