เมื่อพูดถึงชื่อของ รุด กุลลิต นักฟุตบอลทีมชาติฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งนักเตะที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝีเท้า หรือว่ารูปลักษณ์เจ้าของทรงผมเดทร็อคแบบสั้น แต่ทุกคนอาจจะสงสัยอยู่ว่า รุด กุลลิต เล่นในตำแหน่งไหน ซึ่งถ้าหากค้นหาข้อมูลในสื่อโซเชียลจะลงข้อมูลไว้ว่า รุด กุลลิต เป็นผู้เล่นที่เริ่มต้นจากตำแหน่งกองหลัง กองกลาง และกองหน้า และนั่นก็คือข้อมูลความจริง หลังจากที่ประวัติของ รุด กุลลิต นับตั้งแต่ที่เล่นฟุตบอลจนถึงแขวนสตั๊ด รุด กุลลิต เล่นในตำแหน่งทุกที่ที่อยู่ในสนาม และทำได้ดีทั้งหมดเหมือนกับเป็นนักเตะหนึ่งคนที่ได้รับพรจากพระเจ้า
เมื่อพูดถึงผลงานและรางวัลของ รุด กุลลิต แน่นอนว่านักฟุตบอลแห่งยุคต้องยกนิ้วให้กับชายคนนี้กับทรงผมสั้นเดทร็อคกัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ ที่พาอัศวินสีส้มคว้าแชมป์ยูโรในปี 1988 และเจ้าตัวยังเป็นเจ้าของ (บัลลงดอร์ในปี 1987) ซึ่งแน่นอนว่าในยุค รุด กุลลิต นำทัพทีมชาติฮอลแลนด์ หรือว่าเล่นอยู่ในสโมสรทุกทีมประสบความสำเร็จ ถ้าหากว่ามี รุด กุลลิต อยู่ในทีม
และมีหลายสิ่งหลายอย่างพี่แฟนบอลอาจจะสงสัยเพราะว่า รุด กุลลิต คือผู้เล่นที่เล่นหลายตำแหน่ง ซึ่งหากจะพูดถึงบทบาทของ รุด กุลลิต แล้วเจ้าตัวเป็นกองหน้าที่ยิงประตูได้อย่างเฉียบคม และเป็นผู้เล่นที่เล่นอยู่ในฝั่งริมเส้นได้อย่างไหลลื่น รวมแม้กระทั่งเล่นกองหลังในตัว (สวิปเปอร์) ที่คอยออกบอลจากแดนหลังสู่แดนหน้า
และนั่นคือการประสบความสำเร็จสูงสุด และเชื่อหรือไม่ว่า รุด กุลลิต มีอิทธิพลกับการเปลี่ยนแปลงสโมสรที่ รุด กุลลิต ได้ย้ายเข้าไปอยู่ ซึ่งถ้าหากจะเอ่ยชื่อขึ้นมาอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ยอดทีมแห่งลีกฮอลแลนด์ ที่ รุด กุลลิต สามารถที่จะโน้มน้าวให้ทีมเปลี่ยนสีเสื้อเพื่อที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จด้วยเหตุผลที่ว่า “สีเสื้อที่ใช้อยู่ก่อนที่ รุด กุลลิต จะย้ายเข้าสู่ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มีสีที่มองค้ำและเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นสีที่ไม่มงคล” และนั่นคือสิ่งที่ รุด กุลลิต ได้เปลี่ยนแปลงและท้ายที่สุด รุด กุลลิต ก็พา พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีก (อาจจะไม่ใช่เพราะสีเสื้อ แต่เป็นเพราะศักยภาพของ รุด กุลลิต ที่พาทีมประสบความสำเร็จ จึงเชื่อมโยงให้เห็นว่าเจ้าตัวมีอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงทีม)
รวมแม้กระทั่งในปี 1995 ที่ รุด กุลลิต เซ็นสัญญาเข้าสู่สโมสรเชลซี ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก ซึ่งในยุคนั้นต้องยอมรับเลยว่า หากทีมไหนได้ตัว รุด กุลลิต เข้าไปร่วมทัพ พวกเขามีโอกาสประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ รุด กุลลิต ก็ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังเกี่ยวกับเงื่อนไขเพียงแค่ข้อเดียว ที่เจ้าตัวตัดสินใจย้ายเข้ามารวมทีมกับเชลซี นั่นก็คือในช่วงที่คุยสัญญา รุด กุลลิต ต้องการที่จะเล่นในตำแหน่ง (สวิปเปอร์) นั่นหมายถึงการเล่นบอลในพื้นที่กว้างและได้รับอิสระกับการออกบอลด้านกว้าง ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ตายตัว แต่ รุด กุลลิต โฟกัสกับการยืนที่แผงแนวรับ และบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่มีรูปแบบการเล่นแบบ รุด กุลลิต ต้องการ (ซึ่งในตำแหน่งที่ รุด กุลลิต ขอยืนในแผงหลังเป้าหมายคือการออกบอลในพื้นที่กว้าง) และยังมีหนึ่งในบทสัมภาษณ์ของ รุด กุลลิต ที่พูดแซวเพื่อนร่วมทีมเชลซี ในช่วงที่เจ้าตัวยังเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่า “บางครั้งเซ็นต์บอลของเพื่อนร่วมทีมก็ตามเขาไม่ทัน)
และในตอนนั้น เกล็น ฮอดเดิ้ล ที่เป็นผู้จัดการทีมเชลซี ยังไม่รู้จักตำแหน่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องยอมรับเพราะว่า รุด กุลลิต คือนักฟุตบอลแห่งยุค และถ้าหากอยากเล่นตำแหน่งไหนก็ได้พิสูจน์มาแล้วก่อนหน้านี้ว่าทำได้ดีทั้งหมด
และตลอด 3 ปี 1995 ถึงปี 1998 ที่ รุด กุลลิต ย้ายเข้ามาสวมเครื่องแบบให้กับเชลซี การเปลี่ยนแปลงในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มต้นจากสโมสรเชลซี ที่ รุด กุลลิต ยืนในตำแหน่งสวิปเปอร์ ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันนี้จะเห็น “ติอาโก้ ซิลวา” ที่เล่นบทบาทตัวสวิปเปอร์ได้อย่างน่าทึ่ง กับแผนของโทมัส ทูเคิล ที่ใช้กองหลัง 5 ตัว ซึ่งอิสระในการเล่นของ ซิลวา จะมีมากขึ้น ทั้งวิ่งเก็บกวาด และออกบอลจากแดนหลังขึ้นสู่แดนหน้าได้แบบอิสระ
และตำแหน่งที่โดดเด่นของเชลซี กับมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้งอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่มีบทบาทเชื่อมระหว่างเกมรับ และเกมรุกในปัจจุบันนี้ ซึ่งหากจะย้อนกลับไปในช่วงที่ รุด กุลลิต เล่นให้กับ เชลซี เจ้าตัวแทบจะเป็นผู้รับเหมากับการยืนในตำแหน่งทั้ง ซิลวา และ กองเต้ แต่ท้ายที่การเล่นที่มีความสุขของ รุด กุลลิต คือการปั้นเกมและออกบอลด้านกว้างทั้งซ้ายและขวาโดยที่มี รุด กุลลิต ยืนอยู่ตรงกลางคอยบัญชาเกมในช่วงที่ทีมเปิดเกมบุก