ถ้าให้พูดถึงดาวยิงแถวหน้าของยุโรปในฤดูกาลนี้ ที่ถือว่ามาตรฐานการเล่นที่คงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนก็คงไม่มีใครเกินหน้า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ของบาเยิร์น มิวนิก แฮร์รี เคน ของสเปน และ ลิโอเนล เมสซี ของบาร์เซโลนา
แต่สำหรับดาวยิงที่น่าทึ่งและน่าชื่นชมมากที่สุดในชั่วโมงนี้ เห็นจะไม่มีใครเกินหน้า “โรเมลู ลูกากู” กองหน้าทีมชาติเบลเยียมที่เพิ่งพาทีม “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์กัลโช เซเรียอา ฤดูกาลนี้มาครอง
เป็นลูกากู คนเดียวกันกับที่แทบไม่มีเคยฉายแสงในตอนที่เล่นกับเชลซี และเมื่อย้ายมาอยู่กับแมนฯยู ไม่ว่าจะเป็นในยุคของโฮเซ มูรินโญ หรือ โอเล กุนนาร์ โซลชา ก็ไม่เคยเป็นที่สบอารมณ์ของแฟนบอล “ผีแดง” เลย จากตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ถูกโยกไปทำเกมอยู่ริมเส้นทางขวา
เป็นกองหน้าร่างใหญ่ที่ดูเชื่องช้า ครองบอลแทบไม่ได้ เลี้ยงบอลเสีย และใช้โอกาสเปลืองมาก และกลายเป็นตัวตลกในสายตาของแฟนบอลอังกฤษจำนวนมาก
แต่เมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออินเตอร์ มิลาน คว้าตัวลูกากูมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2019 ด้วยค่าตัว 73.7 ล้านปอนด์ ก็เกิดคำถามขึ้นว่า ซื้อกองหน้าร่างใหญ่ ที่เชื่องช้าเหมือนตู้เย็นเคลื่อนที่มาทำไม ตอนนี้ทุกคนคงได้รับคำตอบแล้ว
ล้มลุกคลุกคลานในพรีเมียร์ลีก
กองหน้าทีมชาติเบลเยียมย้ายจากอันเดอร์เลชต์ในบ้านเกิดมาอยู่เชลซีตั้งแต่กลางปี 2011 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนถูกปล่อยให้เวสต์ บรอมยืมตัว ก่อนจะมาโด่งดังเมื่อถูกเอฟเวอร์ตั้นยืมตัวไปเล่น ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง จน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ซื้อตัวมาร่วมทีมเป็นการถาวรด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร
ฤดูกาล 2016-17 ลูกากูยิงให้เอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีกไป 25 ประตู จนในที่สุด มูรินโญ คว้าตัวไปร่วมทีมแมนฯยู ตลอดระยะเวลาที่เล่นให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ลูกากู ลงเล่น 166 นัดยิงไป 87 ประตูกับอีก 29 แอสซิสต์
แต่การย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ฤดูกาล 2017-18 เขายิงได้ 16 ประตูในพรีเมียร์ลีกซึ่งถือว่าไม่เลว แต่ก็ไม่มากพอ และปลายปี 2018 สถานการณ์ของเขายิ่งย่ำแย่หนักเมื่อมูรินโญโดนปลด โอเล กุนนาร์ โซลชา เข้ามาแทนที่ และดาวยิงเบลเยียมเล่นไม่ออก แฟนบอลวิจารณ์ว่าเชื่องช้าเพราะรูปร่างที่อ้วนฉุ เขาตัดสินใจอำลาทีมเมื่อปี 2019 ไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ในกัลโช เซเรียอา
“นิวลูกากู”แจ้งเกิด
มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายเมื่อลูกากูย้ายไปเล่นในอิตาลี คอนเต้จับเขาฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อให้เขาสามารถยืนระยะได้อย่างมั่นคง การเป็นกองหน้าตัวเป้าในเซเรียอาจะต้องใช้พลังอย่างมาก และจะต้องมีบทบาทอย่างมากทั้งการยิงประตู การจ่ายบอล การเร่งความเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้น คอนเต้ ยังให้ลูกากูให้ความสำคัญกับเรื่องโภชนาการ เริ่มไดเอ็ต ให้ละทิ้งการกินอาหารขยะ หันมาเน้นผักและเนื้อสัตว์ ดาวยิงเบลเยียมมีหุ่นที่เพรียวขึ้นอย่างมาก การเคลื่อนตัวว่องไวไม่ใช่ตู้เย็นเคลื่อนที่อีกต่อไป และสถิติยิงประตูก็ดีวันดีคืน ฤดูกาล 2019-20 เขายิงได้ 23 ประตู และ “งูใหญ่” ได้รองแชมป์
ฤดูกาลนี้ หัวหอกทีมชาติเบลเยียมลงเล่นไป 31 นัดยิง 21 ประตู 9 แอสซิสต์ และพาอินเตอร์ คว้าแชมป์กัลโช เซเรียอามาครอง
ได้เวลาเอาคืนอิบราฮิโมวิช
ลูกากูตกเป็นข่าวดังเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมื่ออินเตอร์ลงสนามเจอกับทีมร่วมเมืองอย่าง “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ในศึกโคปา อิตาเลีย รอบตัดเชือก และเปิดศึกน้ำลายกับซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้ามิลาน ซึ่งกล่าวคำสบถใส่กันจนหวิดวางมวย และดูเหมือนว่าจะเป็นสงครามที่ค้างอยู่ในใจของทั้งสองคน และเมื่อ “งูใหญ่” ได้แชมป์ลีก ลูกากู ก็ไม่ลืมแค้นครั้งเก่า ด้วยการทวีตข้อความว่า “พระเจ้าตัวจริง ได้สวมมงกุฏพระราชาไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ยอมก้มหัวลงเสีย – King of Milano”
ก่อนหน้านี้ อิบราฮิโมวิช เคยเปรียบตัวเองเป็นพระเจ้าลูกหนังแห่งเมืองมิลานมาก่อน เป็นการเอาคืนที่แสนสุขของโรเมลู ลูกากู อย่างแท้จริง
