อิตาลี และ โปรตุเกส ต้องลุ้นต่อรอบเพลย์ออฟ ฟุตบอลโลก 2022
วันที่ : 19 Nov 2021 ดู :

อิตาลี และ โปรตุเกส ต้องลุ้นต่อรอบเพลย์ออฟ ฟุตบอลโลก 2022

สำหรับในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2021 ก็เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป และก็ได้ 10 ชาติ ผ่านเข้าสู่ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 10 ทีมของแต่ละกลุ่ม ก็ประกอบไปด้วย

เซอร์เบีย  แชมป์กลุ่ม A ที่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 90 เฉือนทีมชาติโปรตุเกส ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ, สเปน แชมป์กลุ่ม B, สวิตเซอร์แลนด์แชมป์กลุ่ม C, ฝรั่งเศส แชมป์กลุ่ม D, เบลเยียมแชมป์กลุ่ม E, เดนมาร์ก แชมป์กลุ่ม F, เนเธอร์แลนด์ แชมป์กลุ่ม G, โครเอเชีย แชมป์กลุ่ม H, อังกฤษ แชมป์กลุ่ม I, เยอรมัน แชมป์กลุ่ม J และ อิตาลีแชมป์ ยูโร 2020 ก็เป็นอีกหนึ่งทีมใหญ่ที่ต้องไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ ในช่วงเดือนมีนาคม ปีหน้า กับทีมชาติโปรตุเกส เช่นเดียวกัน

สำหรับทีมชาติโปรตุเกส ที่ระดมไปด้วยนักเตะซุปเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด และ บรูโน แฟร์นานเดส และอีกนักเตะหลายรายที่เล่นอยู่ในวงการลูกหนังยุโรป รวมแม้กระทั่งทีมชาติอิตาลี ที่พวกเขาระดมนักเตะระดับโลกไว้เต็มทีม แต่ทว่าทั้งสองทีมก็ไม่สามารถที่จะผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยระบบอัตโนมัติได้

โดยเฉพาะแชมป์ยูโร อิตาลี ที่พวกเขาทำผลงานได้หลุดยอดมาตรฐานกับผลเสมอในนัดสุดท้ายกับ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแน่นอนว่าจบเกมการแข่งขันทั้งหมด 10 นัด อิตาลี มีผลชนะ 4 นัด และเสมอถึง 4 นัด และสิ่งที่น่าจับตามองระหว่างสองทีมนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยทีมชาติอิตาลี และทีมชาติโปรตุเกส นั่นก็คือพวกเขาเป็นทีมใหญ่ที่ได้เล่นรอบเพลย์ออฟ

และสำหรับข้อได้เปรียบกับการเล่นเพลย์ออฟในปีหน้าระหว่างวันที่ 24 – 25 มีนาคม ทั้งทีมชาติอิตาลี และทีมชาติโปรตุเกส พวกเขาจะเป็นทีมวางนั่นหมายถึงเล่นในบ้านของตัวเอง

สำหรับกฎของรอบเพลย์ออฟจะประกอบไปด้วยทั้งหมด 12 ทีม ได้แก่

1. โปรตุเกส (รองแชมป์กลุ่ม A)

 2. สกอตแลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม F)

 3. อิตาลี (รองแชมป์กลุ่ม C)

 4. รัสเซีย (รองแชมป์กลุ่ม H)

 5. สวีเดน (รองแชมป์กลุ่ม B)

 6. เวลส์ (รองแชมป์กลุ่ม E)

 7. ตุรกี (รองแชมป์กลุ่ม G)

 8. โปแลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม I)

 9. มาซิโดเนียเหนือ (รองแชมป์กลุ่ม J)

 10. ยูเครน (รองแชมป์กลุ่ม D)

 11. ออสเตรีย (แชมป์ เนชั่นส์ ลีก B กลุ่ม 1)

 12. สาธารณรัฐเช็ก (แชมป์ เนชั่นส์ ลีก B กลุ่ม 2)

ทั้งหมด 12 ทีมที่จะเล่นรอบเพลย์ออฟในปีหน้า และการแบ่งกลุ่มทั้งหมดจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่งการแข่งขันจะใช้รอบตัดเชือกเพียงแค่นัดเดียว เพื่อหาแชมป์กลุ่ม 3 ทีมผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ พร้อมกับอีก 10 ชาติที่ผ่านเข้าไปแล้วก่อนหน้านี้

ซึ่ง 6 อันดับแรกที่จัดอันดับก็จะมี 1. โปรตุเกส (รองแชมป์กลุ่ม A) 2. สกอตแลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม F) 3. อิตาลี (รองแชมป์กลุ่ม C) 4. รัสเซีย (รองแชมป์กลุ่ม H) 5. สวีเดน (รองแชมป์กลุ่ม B) 6. เวลส์ (รองแชมป์กลุ่ม E)

พวกเขาจะได้เป็นทีมวางที่จะต้องรออีก 6 ทีม อันดับ 6 ถึงอันดับ 12 ประกบคู่ และเล่นในบ้านของทีมวาง ซึ่งทีมชาติโปรตุเกส และอิตาลี ก็ค่อนข้างที่จะได้เปรียบ เพราะได้เล่นในบ้านของตัวเอง แต่แน่นอนว่าสิ่งที่โฟกัสนั่นก็คือทีมชาติอิตาลี พวกเขายังขุดหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอ ถึงแม้ว่าจะการันตีด้วยแชมป์ยูโร 2020 ที่ผ่านมาก็ตาม ส่วนทางด้านของทีมชาติโปรตุเกส ที่มีแฟนบอลเฝ้าติดตามสถานการณ์จากทั่วโลก เพราะที่นั่นมี คริสเตียโน โรนัลโด เป็นซุปเปอร์สตาร์หมายเลข 7 ก็ยังไม่การันตีได้ว่านักเตะทุกคนจะมีสภาพร่างกายที่พร้อมในช่วงแข่งขันรอบเพลย์ออฟ โดยเฉพาะ เจา คันเซโล ฟูลแบ็คของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่การแข่งขันรอบเพลย์ออฟรอบแรก จะไม่ได้ลงสนามเพราะติดโทษแบน

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight