เจมี วาร์ดี้ได้เวลากลับมาซัลโวให้“จิ้งจอกสยาม”
วันที่ : 26 Apr 2021 ดู :
jamie-vardy-leicester-city

เจมี วาร์ดี้ได้เวลากลับมาซัลโวให้“จิ้งจอกสยาม”

ท่ามกลางการรวมตัวของสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปเพื่อก่อตั้งยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก โดยมี 6 สโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีกตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย อาร์เซนอล,เชลซี,ลิเวอร์พูล,แมนฯซิตี้,แมนฯยู และ สเปอร์

ก่อนที่ “ดรีม โปรเจกต์” ต้องล้มสลายหลังจากเปิดตัวไปได้เพียงแค่สามวัน เพราะโดนกระแสต้านหนักจากแฟนบอล นักเตะ และสต๊าฟทำงาน และบรรดา “บิ๊กซิกซ์” ก็ทยอยถอนตัวกันออกมาจนครบ

แต่ทีมที่สามารถปักหลักได้อย่างมั่นคงก็คือ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้

และเว็บไซต์ GiveMeSport.com เว็บไซต์ด้านกีฬาในอังกฤษได้ทำการจัดอันดับเจ้าของทีมในพรีเมียร์ลีกดีที่สุด 20 อันดับ ซึ่งเบอร์หนึ่งของตาราง คือ ตระกูล “ศรีวัฒนประภา” แห่ง “คิง พาวเวอร์” ของไทย นับเป็นเจ้าของทีมที่เป็นชาวต่างชาติที่เอาชนะใจแฟนบอลท้องถิ่นได้

ในการสำรวจครั้งนี้ระบุว่า เจ้าของทีมเลสเตอร์มีจุดแข็งอยู่ตรงที่การวางแผนระยะยาว ให้ความสำคัญกับอะคาเดมีของสโมสร และการสร้างสนามซ้อมแห่งใหม่ และไม่ลงทุนซื้อนักเตะด้วยค่าตัวแพงมหาศาล

และตอนนี้ผลตอบแทนก็คือ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกมีโอกาสสดใสในการติดท็อปโฟร์ จ่อคิวที่จะได้ไปเตะยูฟา แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า แถมยังได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในศึกเอฟเอ คัพ อีกด้วย

และที่ทำให้ “บีร็อด” ดีใจมากไปกว่านั้นก็คือ เจมี วาร์ดี้ หัวหอกเบอร์ 1 ของทีมที่ยิงประตูไม่ได้มา 2 เดือนหรือ 11 นัดในทุกรายการ มายิงประตูได้แล้วในเกมเปิดบ้านถล่มเวสต์ บรอม 3-0 ประตู

และจะสร้างความมั่นใจให้เลสเตอร์ในการเล่นนัดชิงดำเอฟเอ คัพกับเชลซีอย่างมาก

นับตั้งแต่วาร์ดี้ ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเกมแรกเมื่อสิงหาคม เขามีส่วนร่วมกับการได้ประตูของ “จิ้งจอกสยาม” รวม 153 ประตู โดยเป็นการยิงเอง 116 ประตู และทำอีก 37 แอสซิสต์ ซึ่งในพรีเมียร์ลีกเป็นรองเพียงแค่ แฮร์รี เคน ของสเปอร์ส (193 ประตู) และ เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร ของแมนฯซิตี้ (157) ประตู

“ผมไม่เคยกังวลในเรื่องความสามารถในการทำประตูของเจมี วาร์ดี้ เลย ในที่สุดเขาจะกลับมาเป็นจอมถล่มประตูให้กับทีมได้แน่นอน และเลสเตอร์ ก็มีผู้เล่นที่สามารถทำประตูได้อีกหลายคน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขาทำงานหนักมาอย่างสม่ำเสมอ” เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กล่าวแสดงความมั่นใจในศัยกภาพของกองหน้าคนสำคัญของทีม

บีร็อดระบุว่า แม้โดยตำแหน่งของวาร์ดี้จะเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่เขามีคุณสมบัติที่เยี่ยมยอดอีกอย่างก็คือการหาพื้นที่ และการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ตลอดเวลา

“ความเร็วและความเฉียบในการเข้าทำของเจมี ทำให้กองหลังของคู่แข่งมักจะตามประกบเขาเป็นเงาตามตัว และนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้คนอื่นสอดเข้าทำประตูแทน”

ประจักษ์พยานก็คือ เคเลชี อิเฮียนาโช ลงเล่นในลีกไปแล้ว 19 นัดยิงไป 9 ประตู และเมื่อรวมผลงานในทุกรายการลงเล่น 32 นัดยิง 16 ประตู

ในขณะที่วาร์ดี้แสดงความเห็นว่าฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลนี้ก็เหมือนกับผลงานของ “จิ้งจอกสยาม” ที่มีทั้งช่วงขึ้นและลง แต่ทีมก็สามารถผ่านสถานการณ์ที่ยากลำไปได้ และผลงานโดยรวมในฤดูกาลนี้ก็น่าพอใจมาก

ก่อนหน้าที่จะยิงประตูได้ในเกมกับเวสต์ บรอมวิช อัลเบียน นั้น วาร์ดี้ ทำได้เพียงประตูเดียวใน 18 นัดล่าสุด และใน 10 เกมล่าสุดในทุกรายการยิงประตูไม่ได้เลย

“มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับนักเตะกองหน้าทุกคน แต่ผมคิดว่าสถิติทำประตูของตัวเองไม่ได้วัดคุณภาพที่แท้จริงของทีมหรอก เราทำได้ดีในเกมลีก และได้เข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วยรายการเก่าแก่ที่สุดของโลก แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกหน่อยๆ ที่ผมยิงประตูไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ถึงกับกังวลมาก”

และประตูที่ทำได้ในเกมเวสต์ บรอม อาจทำให้วาร์ดี้ กลับมาเล่นมั่นใจยิ่งขึ้น และอาจเป็นจิ๊กซอว์สำคัญพาเลสเตอร์คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ก็เป็นได้

โปรดติดตาม

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight