เควิน เดอบรอยน์ เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับแมนฯซิตี้ โดยเซ็นสัญญาร่วมทีมเป็นเวลา 4 ปี โดยมีรายงานว่าในสัญญาใหม่จะได้รับค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์ หรือราวสัปดาห์ละ 12.6 ล้านบาท โดยยังไม่รวมโบนัส
ซึ่งเมื่อรวมรายได้ทั้งหมดแล้วทำให้เดอบรอยน์ติดอันดับหัวแถวของนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว
แต่หากพิจารณาจากผลงานนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม “เรือใบสีฟ้า” อย่างแน่นอน
“ผมบอกได้ว่าไม่มีอะไรที่จะมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว” มิดฟิลด์วัย 29 กล่าวหลังการเซ็นสัญญาเสร็จสิ้น
“นับตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่กับซิตี้เมื่อปี 2015 ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านตัวเอง ผมรักแฟนบอล และครอบครัวของผมก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตในแมนเชสเตอร์ และผมก็คิดว่าตัวเองพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาตลอดเวลา”
เดอบรอยน์ ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอังกฤษอาชีพของอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว โดยเขายกย่องว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา
“ผมและเป๊ปมีแนวทางในเรื่องของฟุตบอลไปในแนวทางเดียวกัน และความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยมระหว่างนักเตะกับผู้จัดการทีมก็มีส่วนอย่างมากต่อฟอร์มการเล่นในสนามด้วย”
แม้ว่า แมนฯซิตี้ จะประสบปัญหากับการที่รายได้หดหายในฤดูกาลที่ผ่านมาจากภาวการณ์ระบาดของไวรัส โควิด-19 แต่ เตกิ เบกิริสเตน ผู้อำนวยการสโมสรแมนฯซิตี้ระบุว่า การต่อสัญญาใหม่ให้เดอบรอยน์เป็นความจำเป็นและจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
เดอบรอยน์ กุมหัวใจแฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” ไว้ได้ เพราะความทุ่มเทและบทบาทในทีม แทบจะเป็นคนละคนกับตอนที่โฮเซ่ มูรินโญ ปล่อยตัวเขาออกจากทีมเชลซีเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
ในปี 2014 มูรินโญบอกว่าเขาไม่อยู่ในแผนการสร้างทีม เพราะสถิติที่ลงเล่นบ่งบอกอย่างนั้น ด้วยผลงาน 1 แอสซิสต์ และยิงประตูไม่ได้เลย
“หลังวินาทีที่เขาบอกผม ทำให้ผมรู้ว่าเขาจะทำอะไร หลังจากนั้นเขาก็อ่านสถิติการเล่นของนักเตะคนอื่นให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นวิลเลียน,ออสการ์ หรือว่า ฮวน มาตา รวมไปถึงอังเดร ชูเล่ แล้วก็พูดว่าคนนั้นทำ 5 ประตู คนนี้ทำ 10 แอสซิสต์บ้าง” จอมทัพทีมชาติเบลเยียมกล่าวรำลึกความหลังอันขมขื่น
เดอบรอยน์ ย้ายออกจากเชลซีไปอยู่กับโวล์ฟสบวร์ก ในบุนเดสลีกาเมื่อปี 2014 และอีก 18 เดือนหลังจากนั้นย้ายมาอยู่ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยค่าตัว 54 ล้านปอนด์ และตอนนี้ครบสิบปีแล้วในการเล่นให้แมนฯซิตี้ และเป็นจอมทัพตัวจริง
และกำลังพาทีมลุ้นถึง 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้
สำหรับสถิติในฤดูกาลนี้ถือว่ายอดเยี่ยมกระเทียมดองมาก
มิดฟิลด์วัย 29 ลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 29 นัด หรือคิดเป็น 1.911 นาที ยิงไป 5 ประตูทำอีก 11 แอสซิสต์ สร้าโอกาสทำประตูทั้งหมด 73 ครั้ง ผ่านบอล 1,207 ครั้ง สถิติผ่านบอลสำเร็จคือ 81.7 %
และนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เดอบรอยน์ พาทีมแมนฯซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 2 สมัย (2019,2018),แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย (2019),แชมป์ลีก คัพ 4 สมัย (2016,2018,2019,2020)
และเป้าหมายในฤดูกาลนี้นอกจากจะกลับมาเป็นแชมป์พรีเมียร์อีกสมัยก็คือลุ้นแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรก
จะทำได้หรือไม่ โปรดติดตาม