ท่ามกลางข่าวลือการย้ายทีมของผู้เล่นดาวรุ่งสุดฮอตอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ของดอร์ตมุนด์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของปารีส แซงต์แยร์กแมง
คาดว่าหากมีการย้ายทีมจริงของทั้งสองคนอาจจะมีค่าตัวเฉียด 100 ล้านปอนด์ หรืออาจกลายเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก
หากแต่กองหน้าอายุน้อยฝีเท้าร้อยล้านไม่ใช่มีแค่ฮาแลนด์ และ เอ็มบัปเป้
อีกหนึ่งที่น่าจับตามองก็คือ เปโดร เนโต้ กองหน้ากึ่งปึกทีมชาติโปรตุเกสของทีม “หมาป่า” วูล์ฟส์ ซึ่งมีทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกให้ความสนใจ และคาดว่าค่าตัวไม่น่าจะแพงเวอร์เกินไป
เพราะก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในการคว้าตัวดิโอโก โชต้า กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสของวูล์ฟส์ไปร่วมทีม
เนโต้ ถูกทีม “หมาป่า” คว้าตัวมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2019 โดยซื้อตัวมาจากทีม “อินทรีสีฟ้า” ลาซิโอ ในศึกกัลโช เซเรียอา โดยปีกชาวโปรตุกีสเล่นกับลาซิโอมา 2 ปี และลงเล่นในทีมชุดใหญ่เพียง 5 เกม และชีวิตของเขาผกผันเมื่อย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก
ปีกวัย 21 ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาเป็นฤดูกาลที่ 2 แล้ว และในฤดูกาลนี้ลงเล่นไปแล้ว 29 นัด ยิงไป 5 ประตู และ 4 แอสซิสต์
ดูเหมือนว่าวูล์ฟส์อาจเล็กเกินไปสำหรับเนโต้แล้วก็เป็นได้
จุดเด่นของเขาไม่ใช่เพียงความเร็ว ความสามารถเฉพาะตัว หรือจังหวะสอดเข้าทำประตู แต่คือผลงานการผ่านบอลอันแม่นยำ โดยเขามีสถิติผ่านบอลลุ้นประตูถึง 57 ครั้ง เป็นจอมสร้างสรรค์โอกาสทำประตูอันดับหนึ่งของวูล์ฟส์เลยทีเดียว
มีคนวิจารณ์ว่า สไตล์ของเนโต้ มีความคล้ายคลึงกับลิโอเนล เมสซี และผลงานในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูก็นับว่าใกล้เคียงกันมาก
แต่สิ่งที่ปีกวัย 21 จะต้องพัฒนาขึ้นอีกหากต้องการก้าวเดินตามความสำเร็จของเมสซีก็คือสถิติการทำประตู
เมสซี ลงเล่นในลา ลีกา 26 นัดยิงไป 23 ประตู แต่เนโต้ ยิงได้เพียงแค่ 5 ประตูจาก 29 นัดเท่านั้น หากแต่ก็ต้องยอมรับว่าองค์ประกอบในทีม “หมาป่า” ยังเทียบกับผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสที่เล่นเคียงข้างกับเมสซีไม่ได้
วูล์ฟส์ ยิงได้แค่ 28 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และในพรีเมียร์ลีกมีอีกเพียง 4 ทีมที่ยิงประตูได้น้อยกว่า หากต้องการรั้งตัวเนโต้ให้อยู่กับทีมต่อไปก็จะต้องลงทุนซื้อกองหน้าจอมถล่มประตูมาร่วมทีมให้ได้
แต่ดูแนวโน้มแล้ว มีโอกาสจะเสียปีกทีมชาติโปรตุเกสให้ทีมใหญ่เสียมากกว่า
ถ้าหากดูผลงานในทีมชาติโปรตุเกสในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรปจะเห็นได้ชัดว่า แม้จะเป็นตัวสำรองแต่สามารถใช้เวลาไม่กี่นาทีสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมได้
ในเกมเอาชนะลักเซมเบิร์ก 3-1 ประตู เนโต้ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในนาทีที่ 41 แทนที่เจา เฟลิกซ์ และในช่วงทดเจ็บครึ่งแรกเปิดบอลให้ดิโอโก โชต้า ทำประตู และในนาทีที่ 80 แอสซิสต์ให้ เจา ปาลินโญ ทำประตู
อย่าแปลกใจหากว่า เจอร์เกน คล็อปป์ อยากได้เนโต้ ไปเป็นตัวเปิดบอลให้โชต้าทำประตูในทีม “หงส์แดง”