“เรือใบสีฟ้า”ฝ่าเกมสุดดราม่าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
วันที่ : 27 May 2022 ดู :
Manchester City

“เรือใบสีฟ้า”ฝ่าเกมสุดดราม่าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

ศึก Premier League ฤดูกาล 2021-22 ได้ปิดฤดูกาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและเร้าใจอย่างมาก

แม้กระทั่งนัดสุดท้ายของฤดูกาลก็ยังเข้มข้นเพราะต้องตัดสินแชมป์กัน เนื่องจากสถานการณ์คู่คี่และเข้มข้นอย่างยิ่ง เพราะ ManChester City มีแต้มก่อนลงเตะในนัดสุดท้ายของฤดูกาลมากกว่า Liverpool เพียงแต้มเดียว หากต้องการรับประกันความมั่นใจว่าได้แชมป์แน่ก็ต้องเก็บ 3 แต้มในการเปิดบ้านเจอกับ Aston Villa ซึ่งว่ากันตามหน้าเสื่อก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก

แต่ฟุตบอลโลกกลมๆ อะไรก็ไม่แน่นอนนัก

“เรือใบสีฟ้า” ได้เล่นในบ้านตัวเองท่ามกลางแฟนบอลเต็มสนาม กุมความได้เปรียบไว้มากมาย แต่พอลงเตะจริงๆ “สิงห์ผยอง” แสดงอิทธิฤทธิ์อย่างเหลือเชื่อ ผ่านไป 69 นาทียิงประตูนำเจ้าถิ่น 2 ประตูทำท่าจะปิดกล่อง และทำให้ ManChester City ชวดแชมป์เสียแล้ว

แต่ Ilkay Gündogan ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในนาทีที่ 68  แทนที่ Bernardo Silva คือตัวพลิกพลิกผันสถานการณ์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนียิงตีไขแตกนาทีที่ 76 ตามด้วย Rodri ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษตีเสมอในอีกสองนาทีต่อมา ก่อนที่ Gündogan คนเดิมจะทำประตูชัยให้ “เรือใบสีฟ้า” แซงเอาชนะ 3-2 ประตูในนาทีที่ 81

ManChester City ใช้เวลา 5 นาทีทำสามประตูและทำให้คว้าแชมป์ Premier League ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีแต้มทิ้งห่าง “หงส์แดง” แค่แต้มเดียว

เป็นชัยชนะสุดดราม่าที่ทำให้ Pep Guardiola ถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อกรรมการเป่านกหวีดยุติการแข่งขัน

กุนซือชาวสเปนพาทีม “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์ลีกได้ 4 สมัยจาก 5 ปีล่าสุด และกลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่ไม่ใช่กุนซือในสหราชอาณาจักรที่พาทีมคว้าแชมป์ Premier League ไปครองได้ถึง 4 สมัย

นอกจากนั้นยังพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้มากกว่า Jose Mourinho (Chelsea) และ Arsene Wenger (Arsenal) ที่ทำไว้แค่ 3 สมัย

และถึงตอนนี้ Pep Guardiola ก็ย่อมเป็นหนึ่งในตำนานของ ManChester City ด้วยเช่นกัน อย่างแน่นอน

ได้แชมป์ 11 รายการในช่วงเวลาเพียงแค่ 6 ปีไม่ใช่ว่าใครก็จะทำได้

แต่ตัวเขาเองบอกว่าที่คู่ควรกับ “ตำนาน” น่าจะเป็นนักเตะในชุดนี้เสียมากกว่า

“พวกเราทั้งหมดคือตำนาน เราจะเป็นความทรงจำของแฟนบอลไปตลอดกาล นักเตะในชุดนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าทึ่ง สิ่งที่เราทำได้มันยากมาก ผมได้เห็นทีมของ Sir Alex Ferguson เคยทำได้เช่นนี้มาแล้ว และตอนนี้เราก็ได้ก้าวเดินตามรอยความสำเร็จนี้ไปแล้ว”

การได้แชมป์ Premier League ต่อหน้าแฟนบอลเป็นสิ่งที่พิเศษสุดสำหรับ Guardiola และการได้เล่นในลีกที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด เป็นความท้าทายความสามารถอย่างยิ่ง และต้องยอมรับว่า Liverpool คือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายปีที่เจอกันมา

Raheem Sterling อีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ย้ายจาก “หงส์แดง” มาอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” บอกว่า ถึงเขาจะย้ายมาแล้วแต่ก็ยอมรับว่า Jurgen Klopp ทำให้ Liverpool เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ผลักดันให้ ManChester City ต้องผลักดันตัวเองไปข้างหน้าไม่อาจหยุดอยู่กับที่ได้

อีกคนที่ปลื้มกับความสำเร็จกับการได้แชมป์ลีกก็คือ Oleksandr Zinchenko แบ็กซ้ายทีมชาติยูเครน เขาเป็นคนแอสซิสต์ให้ Rodri ทำประตูตีเสมอ และอยากอุทิศชัยชนะและตำแหน่งแชมป์ให้กับชาวยูเครนทุกคนที่ต้องประสบกับชีวิตอันยากลำบากหลังจากกองทัพรัสเซียบุกรุกเข้าไปและทำลายบ้านเมืองจนเสียหาย ผู้คนล้มตายไปอีกมากมาย

“ผมอยากเอาถ้วยแชมป์ Premier League ไปมอบให้กับชาวยูเครนเสียเลยด้วย แชมป์นี้สำหรับพวกเขาทุกคน ยูเครนควรได้รับเกียรตินี้”

แต่คนที่ปลาบปลื้มมากที่สุดในการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ก็คือ Fernandinho ที่จะอำลาทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และในพิธีรับถ้วยแชมป์ มิดฟิลด์วัย 37 เป็นคนได้รับเกียรติชูถ้วยแชมป์ขึ้นอวดด้วย

หลังจากเล่นให้ “เรือใบสีฟ้า” มานาน 9 ปี มิดฟิลด์แซมบ้าได้แชมป์ลีกไปครองถึง 5 ครั้ง และคงจะได้จารึกชื่อเป็นหนึ่งในตำนานกัปตันทีมของสโมสร

Guardiola กล่าวถึง Fernandinho ว่าเป็นผู้เล่นตัวอย่างของสโมสร เป็นผู้นำในสนาม ทุ่มเทการเล่นเต็มร้อยทุกนัด และเป็นที่ปรึกษาของนักเตะในทีมทั้งในและนอกสนาม

“ผมไม่มีอะไรจะพูดมากนักหรอก ผมเล่นให้สโมสรนี้มานาน 9 ปี ได้แชมป์ลีก 5 สมัย นี่คือฝันที่เป็นจริง”

ผู้จัดการทีม ขุมกำลังนักเตะ แฟนบอลคือแรงผลักดันให้ ManChester City มีวันนี้

และคงไม่หยุดยั้งเพียงแค่นี้แน่นอน

SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight