ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าเชลซีเพิ่งทำหมูหกยิงประตูพลาดอย่างเหลือเชื่อทำให้เยอรมนีพลาดท่าพ่ายมาซิโดเนียคาบ้านตัวเอง 1-2 ประตู ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป และเป็นความพ่ายแพ้ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจากเคยพ่ายทีมชาติอังกฤษ 1-5 ประตู
และการพลาดอย่าง “เหลือเชื่อ” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้
กองหน้าทีมชาติเยอรมนีย้ายจากไลป์ซิกมาเชลซีเมื่อต้นฤดูกาลที่ด้วยค่าตัว 53 ล้านปอนด์ ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 28 นัดยิงไปได้แค่ 5 ประตู และทำไป 8 แอสซิสต์ และหลายครั้งที่ใช้โอกาสเปลือง ทั้งยิงเผาขนหลุดกรอบ โขกเหน่งๆ แต่ไม่เข้า รวมถึงยิงจุดโทษพลาด
หากแต่ แวร์เนอร์ ไม่ใช่กองหน้าเชลซีคนแรกที่ใช้โอกาสเปลือง และหลายคนก็เป็นนักเตะระดับบิ๊กเนมยิ่งกว่าเขาเสียอีก
มีใครบ้าง ตามไปดู
อังเดร เชฟเชนโก
กองหน้าทีมชาติยูเครนเป็นดาวยิงในตำนานของเอซี มิลาน เทียบเท่ากับ มาร์โค ฟาน บาสเทน และ จิอันนิ ริเวรา แต่เมื่อเข้าย้ายมาเล่นให้เชลซีสถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไป “เชวา” ย้ายมาอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อปี 2006 ด้วยค่าตัว 31 ล้านปอนด์ โดยสองปีก่อนหน้านั้นเขาคว้าบัลลงดอร์มาครอง
แต่ในฤดูกาลแรกกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชฟเชนโก้ ยิงได้ 4 ประตูเท่านั้นในการเล่นพรีเมียร์ลีก 30 เกม และฤดูกาลถัดมายิงได้แค่ 5 ประตู และถูกปล่อยตัวให้กลับไปร่วมทีมมิลานแบบยืมตัว
อัลวาโร โมราตา
กองหน้าชาวสเปนย้ายมาจากเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรในขณะนั้น
แต่โมราต้าเริ่มต้นกับเชลซีได้ไม่ดีเท่าไหร่ เขาซัดจุดโทษพลาดทำให้เชลซีพ่ายอาร์เซนอลในการดวลจุดโทษศึกคอมมิวนิตี ชีลด์ และจบผลงานในฤดูกาลแรกด้วยการทำไป 15 ประตู และเป็นดาวยิงที่ใช้โอกาสเปลืองอีกคน และในที่สุดเชลซีก็ขายเขาให้กับแอตฯมาดริด ด้วยค่าตัว 58 ล้านปอนด์
เฟอร์นานโด ตอร์เรส
“เอลนิโน” เป็นดาวยิงที่อันตรายที่สุด และกองหลังทุกทีมล้วนหวาดผวาจากผลงานในช่วงที่ค้าแข้งกับลิเวอร์พูล แต่เมื่อย้ายมาอยู่กับเชลซีเขาไม่ใช่ตอร์เรสคนเดิม เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผลงานยิง 45 ประตูในการลงเล่น 172 เกม และประตูที่ยิงในเกมที่เจอกับบาร์เซโลนาในรอบรองชนะเลิศศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีกเมื่อปี 2012 เป็นลูกยิงที่แฟนบอลเชลซีลงความเห็นว่าเป็นการยิงของกองหน้าเวิลด์คลาส สมราคาค่าตัว 50 ล้านปอนด์หน่อย
หลังจากย้ายออกจากเชลซี ตอร์เรส ย้ายไปเล่นกับมิลาน และ แอตฯมาดริด และหลังจากแขวนสตั๊ดเขาเปิดยิมของตัวเองที่บ้านเกิด
โรเมลู ลูกากู
ตอนนี้ลูกากูคือดาวยิงที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป เขายิงประตูได้อย่างต่อเนื่องทั้งในทีมชาติเบลเยียมและอินเตอร์ มิลาน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีโชคตอนเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เท่าใดนัก
ลูกากู ย้ายจากอันเดอร์เลชตมาอยู่กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เมื่อปี 2011 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ แต่ตอนนั้นเชลซีใช้ตอร์เรสยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า ในฤดูกาลต่อมาเขาย้ายไปเวสต์ บรอม ด้วยสัญญายืมตัวและยิงได้ 17 ประตู จากนั้นก็ยืมตัวไปอยู่กับเอฟเวอร์ตันอีก และระเบิดฟอร์มยิงประตูได้เด็ดขาดเช่นเดียวกัน
ในช่วงเวลา 6 ปีกับเชลซีเขาลงเล่นเพียง 15 นัดและคลำเป้าไม่เจอเลย
ราดาเมล ฟัลเกา
กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการเล่นในโปรตุเกส,สเปน,ฝรั่งเศส หรือว่า ตุรกี
แต่ฟัลเกาไม่ประสบความสำเร็จเลยในพรีเมียร์ลีก หลังจากเล่นไม่ออกกับแมนฯยู เขาย้ายมาอยู่เชลซีด้วยสัญญายืมตัว แต่ได้ลงเล่นเพียง 12 นัดและทำได้เพียงประตูเดียว
