โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โคตรยอดหัวหอกจอมถล่มประตูทีมชาติโปแลนด์ของ เอฟซี บาเยิร์น มิวนิก วัย 34 ปี ที่ปัจจุบันเขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในสไตทเกอร์ที่ดีที่สุดในโลกมานานกว่าทศวรรษแล้วนั้น เมื่อครั้งอดีตเขามีที่มาก่อนมาค้าแข้งอย่างไร
“เลวี่” เมื่อครั้นยังเด็ก เขาถูกอบรมและเลี้ยงดูมาจากพ่อและแม่ที่มีพื้นฐานจากการเป็นนักกีฬา คุณพ่อของเขาเป็นนักกีฬาฟุตบอล ส่วนคุณแม่ของเขาเป็นนักวอลเลย์บอลระดับทีมชาติเลยทีเดียว ซึ่งสุดยอดดีเอ็นเอของการเป็นนักกีฬาถูกถ่ายทอดมาให้กับ “เลวาน” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่นานเมื่อเขาได้เล่นฟุตบอลจากการฝึกซ้อมของคุณพ่อ ก็ทำให้เขาหลงหลักลูกหลังบนผืนหญ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“วิญญาณเพชฆาตร” ได้ถูกเจียระไน
เลเกียร์ วอร์ซอ เป็นทีมแรกที่มีชื่อเสียงระดับสูงสุดของลีกโปแลนด์ สำหรับ เลวานดอฟสกี้ โดยเขาลงเล่นทีมสำรองเมื่อครั้งอายุเพียง 16 ปี แต่เส้นทางลูกหนังไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อโค้ชทีมสำรองไม่รับรองว่า เลวาน คือนักเตะที่มีคุณสมบัติที่มากพอหลังจากที่เห็นพัฒนาทางด้านร่างกายของเขาเมื่ออายุได้ 18 ปี ทำให้เขาถูกต้นสังกัดปฏิเสธที่จะมอบสัญญาระดับอาชีพให้แก่เขา
“เลวาน” ต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะหาต้นสังกัดใหม่ และนั่นทำให้ Znicz Pruszkow ทีมระดับดิวิชั่น 3 ของโปแลนด์ หยิบยื่นโอกาสให้กับเขาอีกครั้งและนั่นเหมือนกับเป็นการจุดประกายและปลุกวิญญาณเพชรฆาตรในตัวว่าที่ยอดหัวหอกรายนี้ออกมาอย่างแท้จริง เมื่อปีแรกเขาถล่มประตูช่วยให้ต้นสังกัดของเขาเลื่อชั้นสู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ ก่อนที่ปีต่อมาเจ้าตัวจะระเบิดฟอร์มยิงไป 32 ประตู จนทำให้เขาเนื้อหอมขึ้นมาทันที
และนั่นทำให้ เลซพอร์ชนาน ยอดทีมดังของโปแลนด์ ดึงตัว เลวานดอฟสกี้ เข้าสู่รัง ก่อนถูก โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ ดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2010 ด้วยค่าตัวกว่า 4.5 ล้านยูโร (160 ล้านบาท)
สู่เส้นทางระดับสูง
ในปีแรกของเขาที่ บุนเดสลีกา เขามีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น ร่างกายยังไม่กำยำเยี่ยงปัจจุบัน และนั่นทำให้ขวบปีแรกของเขากับ ดอร์ทมุนด์ จบลงด้วยผลงาน 9 ประตูในทุกรายการ ซึ่งนั่นเป็นตัวเลขที่ถือว่าไม่เลวร้ายนักหากเทียบกับอายุและประสบการณ์ใหม่ที่เขาเพิ่งเคยเจอ
แต่ด้วยการเคี่ยวเข็นของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ “เลวาน” นั้นพบทางสว่างและเข้าใจการเป็นยอดศูนย์หน้ามากขึ้น เขาซ้อมมากกว่าคนอื่น และฝึกยิงประตูมากกว่าคนอื่น ๆ ในทีม ทำให้เขายกระดับฟอร์มการเล่นจนพาทัพ “เสือเหลือง” คว่ำ “เสือใต้” เป็นแชมป์ลีก 2 สมัยซ้อน แถมยังทำคนเดียว 4 ประตูในรอบรองชนะเลิศนัดที่ 1 ใส่ เรอัล มาดริดในถ้วย แชมเปียส์ลีก ฤดูกาล 2013 – 2014 ก่อนพา ดอร์ทมุนด์ หักปากกาเซียนเข้าไปชิงกับทัพ “เสือใต้” ก่อนจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ของถ้วยบิ๊กเอียร์
จุดสูงสุด
เลวานดอฟสกี้ ในวัย 26 ปี เขารู้สึกอิ่มตัวและต้องการก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปร้วมทีม บาเยิร์น มิวนิก แบบไร้ค่าตัวเมื่อปี 2014 และนั่นทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งร่างวัลร่วมกับทีม และรางวัลส่วนตัว โดยเขาคว้าแชมป์ลีกร่วมกับ บาเยิร์นได้ 8 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก เมื่อปี 2020 อีก1 สมัย และสถิติยิง 344 ประตู จากการลงสนามรับใช้ทัพ “เสือใต้” ทั้งหมด 374 นัด
