คามาแวงก้า ก้าวเข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสรแรนส์ ยอดทีมดังในฝรั่งเศส ตั้งแต่อายุ 11 ปี และเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกตั้งแต่อายุ 16 ปี และก้าวไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ตอนอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น และนั่นคือเหตุผลสำคัญว่าทำไมกองกลางสไตล์โมเดิร์นฟุตบอลรายนี้ ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นไปเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในโลก
กำเนิดโมเดิร์นมิดฟิลด์
เมื่อปี 2019 เขาประเดิมชุดใหญ่ให้กับแรนส์ ในเกมลีกสูงสุดในวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น เขาแสดงให้เห็นถึงสไตล์การเล่นที่แตกต่าง เขาคือมิดฟิลด์สไตล์สมัยใหม่ ที่ถูกเรียนว่า โมเดิร์นมิดฟิลด์ เพราะการยืนตำแหน่งของเขาจะไม่ถูกระบุว่าเป็นผู้เล่นสไตล์เบอร์ 6,8 หรือ 10 แต่อย่างใด แต่เขาคนเดียวสามารถมีทุกองค์ประกอบของทั้ง 6,8 และ 10 มีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบอลที่ดี การพาบอลไปข้างหน้าที่ยอดเยี่ยม การออกบอลที่แม่นยำ และพลังกำลังในการวิ่งขึ้นสุดลงสุดตลอด 90 นาทีได้อย่างไม่มีปัญหา และนั่นทำให้เขาได้รับการจับตามองจากบรรดายักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป
ฟอร์มการเล่นที่สุดยอดในปี2020 ทำให้เขาถูกเรียกไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในนัดอุ่นเครื่องทันที ทำให้เขาได้รับโอกาสประเดิมสนามหัวทัพ “ตราไก่” และสถาปนาตัวเองขึ้นไปเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ โดยมีอายุที่ 17 ปี 9 เดือน 17 วัน
“มาดริด” ได้เพชรเม็ดงามไปครอบครอง
เมื่อตลาดซัมเมอร์ปี 2019 คามาแวงก้า เหลือสัญญากับแรนส์ อีกเพียง 1 ปีเท่านั้น ทำให้เขาได้รับการจับตามองจากบรรดายักษ์ใหญ่หลายทีม และมี 2 ทีมที่ต้องการดึงตัวเขาไปร่วมทีมแบบจริงจัง นั่นคือ เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แรนส์ ก็แสดงเจตนาชัดเจนว่าพวกเขาต้องการค่าตัวของยอดกองกลางผิวสีรายนี้ไม่ต่ำกว่า 35 ล้านยูโร (1,225 ล้านบาท) แต่สุดท้ายเป็น มาดริด เองที่ปิดดีลไปได้ 31 ล้านยูโร (1,085 ล้านบาท) เท่านั้น คามาแวงก้า ทิ้งสถิติลงสนามรับใช้ แรนส์ ตลอด 2 ปีครึ่งในทีมชุดใหญ่ 88 นัด 2 ประตู 5 แอสซิสต์ ด้วยกัน
อนาคตว่าที่จอมทัพเบอร์ 1 คนใหม่ของ “ราชันชุดขาว”
คามาแวงก้า ตบเท้าเข้าสู่สนาม ซานติอาร์โก เบอร์นาเบว เมื่อซัมเมอร์ปี 2021 ทันที เขาถูกผลักดันให้ลงซ้อมเพื่อเรียนรู้กับสุดยอดกองกลางของทัพราชันชุดขาวอย่าง ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, คาเซมิโร่ ซึ่งแน่นอนว่า นักเตะทั้ง 3 คนนี้ คือสุดยอดของตำแหน่งเบอร์ 6 (คาเซมิโร่) เบอร์ 8 (โครส) และเบอร์ 10 (โมดริช) และนั่นจะช่วยทำให้ คามาแวงก้า ได้เรียนรู้ว่าเขาจะได้รับบทบาทใดในทัพ “โลสบลังโกส” ซึ่งแน่นอนว่า คาโล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม คือคนที่มองเห็นศักยภาพนักเตะได้เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลกเช่นกัน เพราะ “อันเช่” ใช้งาน คามาแวงก้า ในฤดูกาลนี้ได้อย่างเหมาะสม เขาไม่รีบเร่งใช้งานดาวรุ่งรายนี้มากจนเกินไป และเขามักจะส่งดาวรุ่งรายนี้ลงมาพลิกสถานการณ์ช่วยทีมในช่วงครึ่งหลังเสมอ
และนั่นทำให้เขาได้เรียนรู้ จากสถิติการลงสนามรับใช้ต้นสังกัดในปี 2021 – 22 ทั้งหมด 40 เกมในทุกรายการ พร้อมทำ 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ช่วยให้ เรอัล มาดริด เถลิงแชมป์ ลาลีกา สเปน และแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ไปอย่างยิ่งใหญ่
