เป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่ “อิตาลี” ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในเวิลด์ คัพ 2022 ด้วย ทั้งๆ ที่มีดีกรีเป็นแชมป์ยูโร 2020 มาหมาดๆ และยังเป็นการพลาดไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นสมัยที่สองติดต่อกันอีกต่างหาก
ทำให้ย้อนไปถึงฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟุตบอลโลกแห่งความทรงจำ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เรียกได้ว่าชุมนุมนักเตะซูเปอร์สตาร์ไว้คับคั่งมากที่สุด
และในเวลานั้นฟุตบอลกัลโช ซีรี่ส์เอกำลังพีกสุดสุด “ดิเอโก้ มาราโดนา” นักเตะหมายเลข 1 ของโลกค้าแข้งอยู่กับนาโปลี ส่วน “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ที่มีสามประสานจากแดนกังหันลม “รุด กุลลิต-มาร์โก ฟาน บาสเทน- แฟรงก์ ไรจ์การ์ด” ก็เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ European Cup ไปครอง
อะไรบ้างที่ทำให้ “อิตาเลีย 1990” เป็นหนึ่งในเวิลด์ คัพที่เป็นความทรงจำของผู้คนมากมาย
1.นัดเปิดสนามของฟุตบอลโลก 1990 เป็นหนึ่งในสุดยอดเกมพลิกล็อกของนัดเปิดสนามของเวิลด์ คัพ เมื่อแคเมอรูนทีมตัวแทนจากทวีปแอฟริกาพลิกล็อกเอาชนะ “แชมป์เก่า” อาร์เจนตินา 1-0 ประตู โดยได้ประตูชัยจากโอมัม บิยิก
2.อิตาลีเป็นเจ้าภาพย่อมหวังไปถึงการเป็นแชมป์โลก “อิตาเลีย’90” ยังเป็นเวทีแจ้งเกิดของโรแบร์โต้ บักโจ้อีกด้วย บักโจ้ เพิ่งย้ายจากฟิออเรนตินามาอยู่กับยูเวนตุส ในสองนัดแรกเขาเป็นเพียงตัวสำรองก่อนจะได้เป็นตัวจริงในนัดที่พบกับเชโกสโลวะเกีย และ “เทพบุตรเปียทองคำ” ทำประตูด้วยการพาบอลลากเลื้อยจากครึ่งสนามผ่านผู้เล่นของสโลวะเกียคนแล้วคนเล่าก่อนส่งบอลไปตุงตาข่าย
3.เกมสุดคลาสสิกเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบสอง เมื่อ “แชมป์เก่า” อาร์เจนตินา โคจรมาพบกับทีมชาติบราซิลคู่ปรับตลอดกาล บราซิลบุกกระหน่ำแทบจะฝ่ายเดียว แต่เพียงครั้งเดียวที่ “มาราโดนา” ได้โอกาสเขาจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาสให้คู่ขาอย่างเคลาดิโอ คานิกเกีย ทำประตูชัยส่งบราซิลตกรอบอย่างเหลือเชื่อ
4.ในช่วงเวลานั้นเป็นยุคทองของเยอรมันตะวันตกกับฮอลแลนด์ และทั้งสองทีมต้องมาเจอกันในรอบสองและเกมซัดกันดุเดือดเลือดพล่าน และดราม่าในทัวร์นาเมนต์ก็เกิดขึ้นเมื่อ ไรจ์การ์ด และ รูดี้ โฟลเลอร์ที่เจอกันตลอดเกมคุมอารมณ์ไม่อยู่มีการถ่มน้ำลายใส่กัน จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปทั้งคู่
5.หากไม่นับในฟุตบอลโลก 1966 ที่อังกฤษคว้าแชมป์โลกไปครองในบ้านตัวเอง “สิงโตคำราม” ชุดสู้ศึกเวิลด์ คัพ 1990 น่าจะเป็นทีมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในบอลโลก รอบสุดท้าย ดาวเด่นของทีมก็คือ “แก๊ซซา” พอล แกสคอยน์ ที่โชว์ความสามารถเฉพาะตัวได้อย่างโดดเด่น และทีมของบ็อบบี้ ร็อบสันก็มีเกมน่าประทับใจในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ดวล 120 นาทีเอาชนะแคเมอรูนเร้าใจ 3-2 ประตู
แต่ในรอบตัดเชือก อังกฤษก็ไปไม่รอดด้วยการดวลจุดโทษพ่าย “อินทรีเหล็ก” โดย สจ๊วต เพียร์ซ และ คริส วอดเดิ้ล ซัดจุดโทษพลาด
6.จะบอกว่าฟุตบอลโลก 1990 เป็นเวทีแห่งความสำเร็จของ “อินทรีเหล็ก” ภายใต้การนำทีมของโลธาร์ มัตเธอุส ก็ว่าได้ พวกเขาเล่นได้โดดเด่นตลอดทัวร์นาเมนต์ ก่อนจะคว้าแชมป์โลกไปครองด้วยการล้างแค้นเอาชนะ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา 1-0 ประตู
ฟรานซ์ เบคเคนบาวร์ กลายเป็นคนแรกที่ได้แชมป์โลกทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม ส่วน “ซูเปอร์แมน” คว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปครองจากผลงานในอิตาเลีย’90
#บอลโลก1990 #ทีมชาติเยอรมัน #ทีมชาติอังกฤษ