อเลสซานโดร เนสต้า โคตรกองหลังระดับตำนานทีมชาติอิตาลีของ ลาซิโอ และ เอซี มิลาน 2 ยักษ์ใหญ่มหาอำนาจลูกหนังโลกจากเมืองมะกะโรนีในช่วงปี 2000
เนสต้า นั้นเป็นเด็กฝึกเยาวชนของทัพ “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ ตั้งแต่อายุได้เพียง 9 ขวบเท่านั้น เขาเคยเล่นมาทุกตำแหน่งเมื่อครั้งสมัยยังเป็นเพียงดาวรุ่ง แต่ตำแหน่งที่ทำให้เขาเจิดจรัสที่สุด คือตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เนื่องจากเขามีสรีระร่างกายที่สูงใหญ่ แต่ไม่อืดอาด พร้อมทักษะการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขานั้นถูกยกย่องจากโค้ชทีมเยาวชนเป็นอย่างมาก
ยอดกองหลังสายเลือดโรมรายนี้ พัฒนาตนเองจนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1993 ขณะนั้นเขาอายุเพียง 19 ปี และเขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ในช่วงปลายฤดูกาล ก่อนจะเหมาสัมปทานตำแหน่งตัวจริงในฤดูกาลถัดมาทันที
ด้วยเหตุนี้ทำให้ เนสต้า ถูกเรียกตัวสู่ทีมชาติอิตาลี ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อปี 1996 เพื่อทำศึกชิงแชมป์ยูโร และนั่นคือการประกาศศักดาที่ชัดเจน เพราะเขาคือกำลังสำคัญที่พาทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรปชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ได้สำเร็จโดยชนะเหนือทีมชาติสเปน ซึ่งตอนนั้นสเปนนำทัพโดยอีเก กาซิญาส, กาเลส ปูโยลม ราอูล กอนซาเลซ เป็นต้น
ทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ จึงไม่รีรอที่จะเรียกให้ เนสต้า ขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งในปีเดียวกัน เขาได้ประเดิมการลงสนามรับใช้ทีมชาติของเขาเป็นครั้งแรกในเกมพบกับ มอลโดวา และหลังจากนั้นกูไม่มีใครที่จะแย่งตำแหน่งปราการหลังตัวกลางในทัพ “อัซซูรี่” จากเขาได้อีกเลยนับ 10 ปี
ความเป็นผู้นำที่มาตั้งแต่เกิดของเขา ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม ลาซิโอ้ และนั่นทำให้เขาได้นำทัพ “อินทรีฟ้าขาว” บุกตะลุยกวาดแชมป์ โดยในปี 1997 เขาช่วยให้ ลาซิโอ คว้าแชมป์อิตาเลียน คัพ หลังจากที่พวกเขาหักปากกาเซียนเอาชนะ เอซี มิลาน ในนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะนำลูกทีมยืนอยู่จุดสูงสุดของประเทศ โดยเมื่อปี 1999 – 2000 เขาสามารถพาทีม ลาซิโอ ได้ดับเบิลแชมป์ คือได้ทั้ง แชมป์ลีกกัลโช เซเรีย อา และ แชมป์อิตาเลียน คัพ
แต่หลังจากที่สโมสรประสบความสำเร็จอย่างสูง 2 ปี ลาซิโอ ก็เผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และสิ่งที่จะช่วยให้ ลาซิโอ ยู่รอด คือการต้องตัดสินใจขาย เนสต้า เพื่อแลกกับเงินก้อนโต้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจยอดกองหลังวัย 26 ปี ใน เวลานั้นอย่างมาก เนื่องจากเขาไม่เคยมีความประสงค์ที่จะย้ายออกจาก ลาซิโอ เลย
สุดท้ายแล้วเป็น “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน คู่ปรับตัวฉกาจร่วมลีก ที่ได้เซ็นสัญญากับ เนสต้า ไปด้วยค่าตัวประมาณ 30 ล้านยูโร ซึ่งนั่นเป็นตัวเลขที่สูงมาก ทำให้เขาจบสถิติลงเล่นเกมลีกให้ ลาซิโอ ไว้เพียง 193 เกม
ก่อนจะย้ายไป มิลาน เนสต้า ได้เป็นหนึ่งในขุนพลของทัพ “อัซซูรี่” ในการเดินทางไล่ล่าแชมป์โลกที่แผ่นดินเอเซียในฐานะที่เต็ง 1 ร่วมกับ ฝรั่งเศส แต่สุดท้ายอย่างที่เราทราบกันดี อำนาจเงินของทัพพลังโสมเกาหลีใต้ สามารถโอนเอียงนกหวีดกรรมการให้หวาน และนำมาซึ่งการที่ อิตาลี แพ้ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายให้กับ เกาหลีใต้ ไปแบบน่าอดสู
เอซี มิลาน คือขาใหญ่ในวงการ อิตาลี เวลานั้น พวกเขามีนักเตะอย่าง ดิด้า มัลดินี่ คาฟู, ปิร์โล, เซร์ดอฟ, รุยคอสต้า, เชฟเชนโก้ ซึ่งแน่นอนว่าขุมกำลังระดับนี้ พวกเขาดีพอที่จะก้าวขึ้นไปเป็นตัวเต็งในเวที แชมป์เปียนส์ลีก ภายใต้การนำทัพของ คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นแน่แท้
ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเลยเพราะ เนสต้า พาทีม เอซี มิลาน ได้แชมป์ลีก เซเรีย อา ในฤดกาล 2003 – 04 ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก, ยูโรเปียนซูเปอร์ คัพ และ โคปา อิตาเลีย
ก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บเรื้อรัง เขาได้เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอิตาลี ในการไปชิงแชมป์โลกปี 2006 อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาอายุ 32 ปี แล้ว ด้วยปัญหาเรื่องสภาพร่าฃกาย ทำให้เขาแทบไม่มีส่วนในการที่ช่วยให้ อิตาลี คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 เลย ซึ่งนั่นทำให้หยุดสถิติการลงสนามให้กับ เอซี มิลาน ในทุกรายการตลอดระยะเวลา 10 ปี ไว้เพียง 326 นัด และอำลา มิลาน เมื่อปี 2012 ก่อนไปแขวนสตั๊ด สโมสรในประเทศอินเดีย ในปี 2014