คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่เหลือสัญญากับแมนฯยูอีกเพียงหนึ่งปีตกเป็นข่าวว่าอาจตัดสินใจอำลาทีมก่อนที่พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ เพราะดูเหมือนจะไม่พอใจที่สโมสรไม่สามารถคว้านักเตะระดับบิ๊กเนมมาร่วมทีมได้
แต่เป็นที่รับรู้ว่ากองหน้าวัย 37 อยากจะลงเล่นใน UEFA Champions League ในทุกฤดูกาลก่อนแขวนสตั๊ด และอาจจะเป็นการย้ายออกจาก “ผีแดง” เป็นครั้งที่สองของโรนัลโด้
และเมื่อย้อนกลับไปจุดกำเนิดของความยิ่งใหญ่ของดาวยิงชาวโปรตุเกสเริ่มขึ้นในเกมนัดอุ่นเครื่องช่วงปรี-ซีซั่นระหว่างสปอร์ติ้ง ลิสบอน กับ แมนฯยู เมื่อ 6 สิงหาคม 2003 ที่สนามโฮเซ่ อัลวาลาเด สเตเดี้ยม
“ผีแดง” ภายใต้การคุมทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพิ่งขาย เดวิด เบ๊กแฮม ให้เรอัล มาดริด ไปเมื่อ 1 ก.ค.2003 แต่ขุมกำลังก็ยังแข็งแกร่ง แต่เกมนี้ก็พักผู้เล่นตัวหลักหลายคน แต่ยังมี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ พอล สโคลส์ ลงเล่นเป็นตัวจริง
ส่วนทีม “เจ้าถิ่น” มีดาวรุ่งแจ้งเกิดชื่อว่า “คริสเตียโน โรนัลโด้” ซึ่งเพิ่งประเดิมการเล่นทีมชุดใหญ่เมื่อปีก่อน แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักโดยยิงไปได้แค่ 5 ประตู และควรจะเป็นเพียงตัวสำรองในเกมนี้ หากแต่ว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อนเกมนี้ ริคาร์โด ควอเรสมา ตกลงย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลนา ทำให้โรนัลโด้ ได้ลงเล่นแทน
ไอ้หนูวัย 18 ในขณะนั้นใช้โอกาสในการลงเล่นตัวอย่างคุ้มค่า เขาใช้ลีลาลากเลื้อย และความเร็วเล่นงานจน จอห์น โอเชีย ที่ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาปั่นป่วนอย่างหนัก และเป็นเกมที่กองหลังชาวไอริชพบฝันร้าย ในหนังสือชีวประวัติของ “เซอร์เฟอร์กี้” เมื่อปี 2013 เขียนถึงเหตุการณ์นั้นด้วยว่า “สีหน้าของเขาเจ็บปวดและเต็มไปด้วยความสับสน”
เกมนั้นจบลงโดยสปอร์ติ้ง เอาชนะ แมนฯยู 3-1 ประตู แต่หลังเกมคนที่โด่งดังที่สุดก็คือไอ้หนูวัย 18 ที่มีนักเตะในทีม “ผีแดง” ประทับใจในฝีเท้ามาก โดยเฉพาะริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษให้สัมภาษณ์ว่า “จอห์น โอเชียถูกจับไปเป็นแบ็กขวา และเราไม่รู้หรอกว่าโรนัลโด้เป็นใคร แล้วตอนพักครึ่งน่ะ จอห์น ต้องเอาถังอ็อกซิเจนไว้ข้างตัว”
ในหนังสือชีวประวัติของ รอย คีน กัปตันทีม “ผีแดง” ก็บันทึกเหตุการณ์ในเกมนั้นไว้ว่าเป็นนัดที่แสดงให้เห็นว่าโรนัลโด้เก่งแค่ไหน และทำให้จอห์น โอเชีย ต้องไปพบแพทย์เพราะมีอาการปวดหัวตั้งแต่จบครึ่งแรก
หลังเกมนั้น เพื่อนร่วมทีมมาบอกกับเขาว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันต้องการคุยด้วย และโรนัลโด้ได้เข้าไปในห้องพักนักเตะของ “ผีแดง” และได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น และ “เฟอร์กี้” ก็พูดประโยคหนึ่งกับเขาที่ยังอยู่ในความทรงจำเสมอ
“ฟังนะ ผมอยากให้คุณย้ายไปอยู่กับพวกเรา”
12 ส.ค.2003 แมนฯยูเซ็นสัญญาคว้าตัวคริสเตียโน โรนัลโด้ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ และสวมเสื้อหมายเลข 7 แทนที่เดวิด เบ๊กแฮม
และความยิ่งใหญ่ของโรนัลโด้จึงได้เริ่มต้นขึ้น