โอเล่ กุลนาร์ โซลชา กว่าจะมาเป็นกุนซือผีแดง !!
วันที่ : 22 Dec 2020 ดู :
Ole Gunnar Solskjær

โอเล่ กุลนาร์ โซลชา กว่าจะมาเป็นกุนซือผีแดง !!

กุนซือของทัพปีศาจแดงในปัจจุบัน ถูกตั้งคำถามถึงอนาคตของตำแหน่งหลังจากพาทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกส์ วันนี้เรามาย้อนดูเรื่องราวของเขาสมัยที่ยังโลดแล่นบนฟลอร์หญ้าในฐานะนักเตะอาชีพ ความสำเร็จ ความพยายามกว่าจะได้มาเป็นผู้ควบคุมการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โอเล่กุลนาร์ โซลชา เกิดวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 1973 ที่เมืองคริสเตอร์ซุนด์ ประเทศนอร์เวย์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสรคลาสเนเก้นในดิวิชั่น 3 ของนอร์เวย์  ลงสนามนัดแรกให้กับทีมด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี เขาใช้เวลา 4 ปีอยู่ที่นั่น ลงสนามให้กับทีมไปทั้งสิ้น 109 นัดยิงได้ 115 ประตูตลอดการรับใช้สโมสร

จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยม เขาถูกยักษ์ใหญ่ในประเทศอย่าง โมลด์ ซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยราคาสองแสนโคน(ประมาณเก้าแสนแปดหมื่นบาท) ในวันที่ 22 เมษายน 1995 เขาลงประเดิมสนามให้กับต้นสังกัดใหม่พบกับ เอสเค บรานส์ ก่อนที่จะยิงคนเดียวสองประตู พาทีมชนะ 6-0 ก่อนที่เกมต่อมาเขาก็จัดการประเดิมแฮตทริกแรกให้กับตัวเองในเกมที่ชนะไวกิ้งส์ 5-4  โดยตลอดระยะเวลาในการเล่นให้กับโมลด์ เจ้าตัวลงสนามให้กับทีมรวมทุกรายการ 54 นัดซัดไป 41 ประตู

จากฟอร์มการยิงประตูอย่างต่อเนื่องทำให้มีหลายสโมสรให้ความสนใจในตัวเขา โดยทีมที่ตกเป็นข่าวให้ความสนใจในตัวเขาก็คือ กายารี่ ฮัมบูร์ก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเอฟเวอร์ตัน แต่ทว่าไม่มีทีมไหนที่กล้าจะยื่นข้อเสนอแบบจริงๆจัง ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของแมนยูในขณะนั้น ตัดสินใจยื่นข้อเสนอ 1.5 ล้านยูโร(ประมาณ) ระหว่างการแข่งขันยูโร 1996 ซึ่งโมลด์เองก็ตอบรับข้อเสนอและปล่อยให้โซลชาย้ายไปเป็นนักเตะของปีศาจแดง

ขวบปีที่สุดแสนมหัศจรรย์

หลังจากย้ายมาเล่นให้กับยูไนเต็ดในปี 1996/97 ฤดูกาลแรก เขายิงได้ 19 ประตูจากการลงสนาม 46 นัด ปีต่อมา 1997/98 ลงสนามรวม 30 นัดยิงได้ 9 ประตู ซึ่งฤดูกาลที่ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รักของสาวกเร้ดเดวิลด์คือ 1998/99 ลงสนามทั้งสิ้น 37 นัดซัดไป 18 ประตู ไฮไลต์ก็คือการยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+2 ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงชนะ บาร์เยิร์น มิวนิคในนัดชิงชนะเลิศศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ คว้าทริปเบิ้ลแชมป์(พรีเมียร์ลีก,เอฟเอคัพ และ แชมป์เปี้ยนลีกส์)มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

จากนั้นก็ลงเล่นรับใช้ทีมมาอีก 7 ฤดูกาล โดยตลอดระยะเวลาการค้าแข้งกับปีศาจแดง 10 ปีเต็ม เขายิงประตูให้กับทีมไปทั้งสิ้น 126 ประตูจากการลงสนาม 366 เกม พาแมนยูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย คอมมูลนิติชิลด์ 2 สมัย ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ 1 สมัยและสโมสรโลกอีกสมัย ก่อนจะตัดสินใจยุติชีวิตการค้าแข้งของตัวเองลงกับปีศาจแดง

เริ่มต้นบทบาทกุนซือ

หลังจากแขวนสตั๊ด เขาตัดสินใจรับงานเป็นเฮดโค้ชทีมสำรองของแมนยู 3 ปี ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์แลงคาเชียร์ ซีเนียร์ คัพ 1 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซีเนียร์คัพ 1 สมัย แชมป์ลีกสำรอง 1 ครั้ง ก่อนจะได้รับข้อเสนอสัญญา 3 ปีจาก โมลด์ ซึ่งเจ้าตัดสินใจกลับไปหาความท้าทายในประเทศบ้านเกิด

ฤดูกาล 2011/12 เขาเริ่มต้นกับโมลด์ได้อย่างยอดเยี่ยม พาทีมเป็นแชมป์ลีกสองสมัยซ้อนในปี 2011-2012 และอีกหนึ่งนอร์เวย์คัพในปี 2013 ก่อนจะกลับไปรับงานในอังกฤษกับ คาร์ดิฟ ซิตี้ในปี 2014 และกลับมาคุม โมลด์ เป็นคำรบที่สองในปี 2015-18

กุมบังเหียนปีศาจแดง

ฤดูกาล 2018/19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชกลางฤดูกาล พวกเขาตัดสินใจปลด โชเซ่ มูริญโญ่ พ้นจากตำแหน่งและทำการแต่งตั้ง โอเล่ กุลนาร์ โซลชาร์ เข้ามาแทน โดยใน 8 เกมแรกที่โอเล่คุมทีม เขาพาทีมชนะได้ถึง 8 นัดรวดก่อนจะฟอร์มหลุดพลาดโควตายูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ไปอย่างน่าเสียดาย

ตลอด 5 ปีจนถึงปัจจุบัน โซลชาคุมค่อยสร้างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผลงานที่ดีที่สุดก็คือการพาทีมจบอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019/20 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า ยูโรปาลีกฤดูกาล 2019/20 ซึ่งพวกเขาพลาดท่าแพ้เซบีย่า 2-1 ชวดการเข้าชิงถ้วยฟุตบอลยุโรปไปอย่างน่าเสียดาย

Ole Gunnar Solskjær
Ole Gunnar Solskjær
SportLight © 2020 All rights reserved. ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหา ห้ามนำไปเผยแพร่, แก้ไขหรือทำซ้ำ โดยไม่รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก SportLight