พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020/21 คือฤดูกาลที่แปลกพิลึกอีกหนึ่งฤดูกาล จากการที่ทีมระดับเล็กไปจนถึงระดับกลางสามารถยกระดับขึ้นมาต่อกรกับขาประจำในพรีเมียร์ลีกได้คู่คี่สูสี ตารางคะแนนในปัจจุบันใครจะไปเชื่อว่าอาร์เซนอลต้องรั้งอันดับเลขสองตัวทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาแทบจะเป็นขาประจำในตำแหน่ง “Top4” แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว นี่คือการคาดคะเนกับสิ่งที่เราอาจจะได้เห็นหลังการแข่งขันฤดูกาลนี้สิ้นสุดลง
1.ไม่มีทีมลอนดอนจบท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้
ในฤดูกาล 1995/96 ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ รองแชมป์เป็นนิวคาสเซิ่ล , ลิเวอร์พูลและแอสตันวิลล่าก็ต่างจบในตำแหน่ง Top4 โดยทีมลอนดอนที่จบอันดับใกล้เคียงที่สุดก็คืออาร์เซน่อลที่จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 5 ในลีกซึ่งอันดับต่อมาก็เป็น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมจากกรุงลอนดอน
ซึ่งถ้าดูกันตามสถานการณ์ปัจจุบัน เชลซี หลังจากปลดแฟรงค์ แลมพาร์ดออกจากตำแหน่งพร้อมกับแต่งตั้งโทมัส ทูเคิ่ล เข้ามาแทนที่พวกเขาก็สามารถกระโดดขึ้นมารั้งอันดับที่ 4 ได้สำเร็จ แต่ก็ยังมีอีกหลายทีมที่ไล่มาชนิดหายใจรดต้นคอ และการทำผลงานได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ หากสิงห์โตน้ำเงินครามดันพลาดหลุดโค้งในช่วงที่เหลือ ก็จะกลายเป็นสถิติใหม่ที่ทีมจากลอนดอนไม่ติด Top4 ในรอบ 24 ปีเลยทีเดียว
2.แฮร์รี่เคนลุ้นทำลายสถิติแอสซิสต์ของ เธียร์รี่ อองรี
ในฤดูกาล 2002/03 อองรีสามารถทำแอสซิสต์ได้มากถึง 20 ครั้ง ซึ่งในขณะนี้ แฮร์รี่ เคน กองหน้าของไก่เดือยทองก็สามารถทำไปได้แล้ว 13ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ ซึ่เหลืออีก 15 เกมในมือ ถือว่าน่าลุ้นทีเดียวสำหรับเคนที่ลุ้นทำลายสถิติของตำนานกองหน้าปืนโต
3.สกอร์รวมของการพบกันในหนึ่งฤดูกาลอาจจะถูกทำลายลง
หนึ่งในสกอร์รวมที่ถล่มทลายที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีกคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้พบกับ วัตฟอร์ต โดยที่ซิตี้สามารถเปิดบ้านถล่มเอาชนะวัตฟอร์ดไปได้ 8-0 และบุกไปยัดเยียดความปราชัยได้ 4-0 สกอร์รวมอยู่ที่ 12-0 ซึ่งถ้าหากจะมีทีมใดสักทีมที่ลุ้นทำลายสถิตินี้ก็คงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สามารถเปิดบ้านเอาชนะ เซาธ์แธมตันได้ 9-0 โดยพวกเขาขาดอีกแค่ 4 ประตูจะทำลายสถิติการยิงคู่แข่งแบบ ไป-กลับ ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
4.เชลซีอาจแซงอาร์เซน่อลในตารางคะแนนรวมพรีเมียร์ลีกทุกฤดูกาล
ตลอดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา อาร์เซน่อลสามารถเก็บได้ 2011 คะแนน และเชลซีเก็บได้ 1997 คะแนน ความห่างของคะแนนอยู่ที่ 14 คะแนนเท่านั้น ซึ่งในเกมที่เหลือหากอาร์เตต้ายังพาอาร์เซนอลกู่ไม่กลับ ตารางคะแนนรวมอาจจะถูกสิงห์บลูแซงขึ้นไปพร้อมกันกับที่กองเชียร์สามารถพูดได้เต็มปากเสียทีว่า “London is Blue”
