ในทีมดอร์ตมุนด์นักเตะที่เป็นแม่เหล็กของทีมคงไม่มีใครเกินหน้า “เออร์ลิง ฮาแลนด์” กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ที่โดนทีมยักษ์ใหญ่ตอมหนัก จนคาดว่าจะไม่ได้เล่นอยู่ในบุนเดสลีกาในฤดูกาลหน้า แต่จะสังเกตได้ว่าฮาแลนด์เริ่มยิงประตูไม่ได้ติดต่อกันมาหลายนัดแล้ว นับตั้งแต่ข่าวลือเรื่องย้ายทีมสะพัดขึ้นมา
ขณะที่ เจดอน ซานโช ปีกจอมพลิ้วที่เป็นเพลย์เมคเกอร์อีกคนของทีมก็บาดเจ็บไม่ได้ลงเล่นมาหลายนัดแล้ว
แต่หลังเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดอร์ตมุนด์บุกไปเอาชนะสตุ๊ตการ์ตถึงถิ่น 3-2 ประตู และเป็นการแจ้งเกิดของดาวดวงใหม่ที่เป็นนักเตะอังกฤษอีกคนก็คือ จู๊ด เบลลิงแฮม
มิดฟิลด์วัย 17 ทำประตูในเกมนี้ด้วย และเป็นประตูแรกที่ยิงได้ในบุนเดสลีกาหลังจากผ่านการลงเล่นมาแล้ว 24 นัด
เบลลิงแฮม เพิ่งได้โอกาสติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในเกมเวิลด์ คัพ 2022 รอบคัดเลือก และโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ จนอาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ถูกเกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกติดทีม “สิงโต” ไปสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในกลางปีนี้ก็เป็นได้
ไอ้หนูวัย 17 เกิดที่เมืองสตูร์บริดจ์ เป็นนักเตะจากอะคาเดมี่ของเบอร์มิงแฮมและขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่เมื่อกลางปี 2019 และทำสถิติลงเล่นในทีมชุดใหญ่ในขณะมีอายุเพียงแค่ 16 ปีกับอีก 38 วัน ก่อนที่ดอร์ตมุนด์จะคว้าตัวไปร่วมทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ไมก์ ด็อดด์ หัวหน้าอะคาเดมีของเบอร์มิงแฮมที่เห็นฟอร์มของเบลลิงแฮมมายาวนาน แสดงความเห็นว่าเขาจะไม่ประหลาดใจเลยหากว่ามิดฟิลด์วัยทีนเอจรายนี้จะกลายเป็นผู้เล่นแถวหน้าของยุโรปเช่นเดียวกับซานโช่
“ตอนเขาเป็นเด็กฝึกหัดในทีม และเห็นบางอย่างในตัวเขาตั้งแต่ลงฝึกซ้อมครั้งแรก ตอนนั้นเขาอายุเพียง 7 ปีเท่านั้น แต่ผมก็ไม่ได้คาดหวังเขามากไปเด็กคนอื่นในอะคาเดมี่ อาจต้องรอจนอายุ 13 นั่นแหละถึงจะพอมองออกว่าเขาจะเติบโตเป็นผู้เล่นที่มีอนาคต”
แต่ไอ้หนูดาวรุ่งรายนี้ทำให้ด็อดด์ยอมรับว่าประหลาดใจมาก เพราะระหว่างการฝึกซ้อมเขาสามารถเล่นได้โดดเด่นเกินหน้าผู้เล่นคนอื่นในรุ่นเดียวกัน บอกได้ว่าการเล่นเกมรุกของเขาน่าประทับใจมาก
“การที่เขาได้เล่นทีมชุดใหญ่ของเบอร์มิงแฮมในอายุแค่สิบหกปีเศษๆ เพราะเขาสมควรได้รับโอกาส ผมให้เครดิตกับจู๊ดรวมไปถึงครอบครัวของเขาด้วย
หัวหน้าอะคาเดมีระบุว่า เบลลิงแฮม อยากสวมใส่เสื้อเบอร์ 10 แต่หลังจากพูดคุยกันก็ให้เขาสวมใส่เสื้อเบอร์ 22 และหลังจากดอร์ตมุนด์คว้าตัวเขาไปร่วมทีม เบอร์มิงแฮมก็ได้ยกเลิกเสื้อเบอร์ 22 ไปเลย
“คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของเขาก็คือการสอดตัวเองเข้าไปในกรอบเขตโทษได้อย่างเหมาะสม ผมเห็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ตอนเขาอายุ 8 ขวบแล้ว เขาสามารถเป็นได้ทั้งดาวซัลโวและจอมสร้างสรรค์เกม และตอนนี้ยิ่งเห็นได้ชัด”
ในขณะที่เบลลิงแฮมยอมรับว่าเขามีความสุขมากเมื่อได้ย้ายไปเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างดอร์ตมนด์ ได้เล่นในทีมเดียวกันกับแม็ตต์ ฮุมเมลส์,ซานโช่ และ มาร์โก รอยส์
“พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผม นักเตะเหล่านี้ทำงานหนักทั้งในการลงสนามและระหว่างการฝึกซ้อม และทำให้ผมพยายามผลักดันตัวเองไปข้างหน้าให้มากที่สุด”
ในการลงเล่น 24 นัดในลีกผลงาน 1 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ ยังอาจจะถือว่ายังไม่ดีนัก แต่เขามีความมุ่งมั่นจะทำให้ดียิ่งขึ้นอีก และซานโช่ เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับเขา และหวังจะได้เล่นเคียงข้างกันในทีมชาติอังกฤษ
เส้นทางแห่งความสำเร็จของจู๊ด เบลลิงแฮม น่าจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม