ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องถือว่ากุนซือชาวเยอรมนีประสบความสำเร็จอย่างมาก ไล่มาตั้งแต่เจอร์เกน คล็อปป์ ที่พา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก
ในขณะที่ โธมัส ทูเคิล อดีตกุนซือดอร์ตมุนด์เคยพาปารีส แซงต์แยร์กแมง คว้าแชมป์ลีกเอิงเมื่อฤดูกาลก่อน แม้ว่าต่อมาจะถูกปลดแต่ก็กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งเมื่อย้ายมาคุมทีมเชลซีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
และอีกคนที่โด่งดังในเวลาอันรวดเร็วก็คือ ฮันซี ฟลิก ที่พา “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก กวาด 3 แชมป์เมื่อฤดูกาลก่อน และกำลังจะพาทีมคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้ แต่ฟลิก ก็เพิ่งประกาศจะอำลาตำแหน่งหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้
และคนที่จะมาแทนที่เขาในฤดูกาลหน้าก็เป็นกุนซือชาวเยอรมันเช่นกันได้แก่ จูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มของสโมสรแอร์เบ ไลป์ซิก
กุนซือวัย 33 เซ็นสัญญาคุมทีมบาเยิร์น มิวนิก เป็นเวลา 5 ปี และจะเริ่มรับงานคุมทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยอายุของสัญญาจะไปหมดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2026
คำถามก็คือ กุนซือหนุ่มคนนี้มีดีอย่างไรถึงจะได้รับงานคุมหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในยุโรป
ก่อนหน้านี้ นาเกลส์มันน์ สร้างสถิติเป็นกุนซือที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกาเมื่อรับงานคุมทีมฮอฟเฟนไฮม์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ในขณะมีอายุเพียง 28 เท่านั้น
และเมื่อเขาตัดสินใจรับงานคุมสโมสรไลป์ซิกเมื่อปี 2019 ก็ได้พิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อพาทีมผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม และในฤดูกาลนี้ก็ทำแต้มไล่บี้บาเยิร์น มิวนิก ได้อย่างคู่คี่ สูสี
นาเกลส์มันน์ ระบุว่าการเลือกรับงานคุมทีม “เสือใต้” ผ่านการพิจารณา ไตร่ตรองเป็นอย่างดี เพราะบาเยิร์น มิวนิก กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ มีนักเตะ “นิว เจเนอเรชั่น” เป็นแกนหลักสำคัญของทีมมากมายไม่ว่าจะเป็น อัลฟองโซ เดวีส์ (20 ปี),จามาล มูเซียลา (18 ปี),ดาโยต์ อูปาเมกาโน (22 ปี),คริส ริชาร์ดส์ (21 ปี) และ ติอาโก ดอนทาส (20 ปี)
“ไลป์ซิกเป็นสโมสรที่พิเศษสุด ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่นั่น แต่การเลือกมารับงานคุมทีมบาเยิร์น มิวนิก นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ”
แม้แต่ โอลิเวอร์ คาห์น อดีตผู้รักษาประตูของ “เสือใต้” ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารสโมสรก็ยังเชื่อมั่นในความสามารถของกุนซือวัย 33
“เขาเซ็นสัญญาระยะยาวกับเรา นั่นแสดงว่าระหว่างเขาและสโมสรมีความเชื่อมั่นในกันและกัน ผมคิดว่าบาเยิร์นในยุคผลัดใบจะมีอนาคตที่ยอดเยี่ยมรออยู่อย่างแน่นอน”
นาเกลส์มันน์ เกิดที่ลันด์สแบร์ก อัม เลช ในบาวาเรีย และเคยเล่นให้ทีมเยาวชนของ 1860 มิวนิก แต่โชคของเขาไม่ดีนักเมื่อย้ายไปอยู่เอาสบวร์ก เพราะมีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า และทำให้ต้องเลิกเล่นตั้งแต่อายุได้ 20 ปี และหันมาทุ่มเทให้กับการเป็นโค้ชฟุตบอลแทน ก่อนจะสร้างชื่อกับสโมสรเล็กๆ อย่างฮอฟเฟนไฮม์
เขาบอกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา อดีตกุนซือบาเยิร์น มิวนิก และตอนนี้คุมทีมแมนฯซิตี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญกับการทำงานในหน้าที่กุนซือ และก็ประทับใจแนวทางการทำทีมของ โธมัส ทูเคิล ในช่วงที่คุมทีม “เสือเหลือง” ดอร์ตมุนด์ด้วย
และทูเคิลก็ประทับใจในตัวของนาเกิลสมันน์ด้วยเช่กัน
“สิ่งที่ผมชอบในตัวจูเลียนมากที่สุดก็คือ เขามีพลังและรักความท้าทาย เป็นโค้ชหนุ่มที่ชอบเรียนรู้และพร้อมกับการทำงานหนัก ผมเห็นแววเขาตั้งแต่ตอนคุมฮอฟเฟนไฮม์แล้ว” กุนซือเชลซีกล่าวแสดงความชื่นชม
นาเกลส์มันน์ คุมทีมฮอฟเฟนไฮม์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 และคุมทีมยาวนานไปจนจบฤดูกาล 2018-2019 เขาทำให้ทีมเก็บแต้มได้ถึง 191 คะแนน เป็นรองเพียงบาเยิร์น มิวนิก (279) และ ดอร์ตมุนด์ (228)
ใครที่คิดว่าเขาได้งานคุมทีมบาเยิร์น มิวนิก เพราะฟลุ้ก น่าจะคิดใหม่ได้แล้ว