หากจะพูดถึงตำแหน่งกองกลาง หรือว่าห้องเครื่องที่ขับเคลื่อนเกม และเป็นดาวเด่นแห่งยุคก็คงจะมีมากมายหลายรายชื่อและมีนักเตะหลายตำนานที่แขวนสตั๊ดไป และยังถูกพูดถึงในยุคของเขาที่เป็นตำนาน และควบคุมขับเคลื่อนแผนงานในแดนกลาง แต่แน่นอนว่าหนึ่งเดียวกับศิลปินลูกหนัง อันเดรีย ปีร์โล ห้องเครื่องชาวอิตาลี ที่ถูกยกย่องและบันทึกไว้ในตำราว่าเป็นห้องเครื่องสุดคลาสสิค และวางบอลได้อย่างแม่นยำพร้อมกับความสม่ำเสมอ และที่สำคัญเมื่อบอลอยู่ในเท้าของ อันเดรีย ปีร์โล นั่นคือหายนะของกองหลังทีมคู่แข่งที่ไม่ต้องการที่จะพบเจอ
อันเดรีย ปีร์โล เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก แต่สำหรับจุดเปลี่ยนสำคัญของ อันเดรีย ปีร์โล ก็อยู่ในช่วงวัย 20 ปี หลังจากที่กุนซือทีม เบรชชา ซึ่งเป็นสโมสรแรกของ อันเดรีย ปีร์โล ได้แนะนำให้เจ้าตัวย้ายจากตำแหน่งกองหน้า มาเล่นเป็นกองกลางตัวโฮลบอล โดยที่ได้พูดถึงพรสวรรค์ของ อันเดรีย ปีร์โล ว่า (เขาคือผู้ควบคุมแดนกลาง และกำหนดเกมทั้งสนาม ถ้าหากว่าย้ายมาเล่นในตำแหน่งห้องเครื่องตัวขับเคลื่อน) และนับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา อันเดรีย ปีร์โล ก็วาดลวดลายเพลงแข้งในตำแหน่งกองกลางที่เป็นเฟืองตัวใหญ่คอยขับเคลื่อนให้กับทีมมาโดยตลอด
และ อันเดรีย ปีร์โล ที่ถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะลูกหนังที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ก็เริ่มใช้ฉายแววบรรเลงเพลงแข้งตั้งแต่ปี 2001 กับ เอซี มิลาน จนถึงปี 2011 และหลังจากนั้นก็ได้ย้ายมาอยู่สโมสร ยูเวนตุส ถึงปี 2015 และตลอดระยะเวลา 15 ปีที่เล่นให้กับ 2 สโมสรยักษ์ใหญ่ใน กัลโช ซีเรีย อา แน่นอนว่า อันเดรีย ปีร์โล คือหายนะของกองหลังคู่แข่ง ที่เจ้าตัวสามารถวางบอลได้อย่างแม่นยำด้วยความสม่ำเสมอ และที่สำคัญการวางบอนของ อันเดรีย ปีร์โล ทำให้กองหลังทีมคู่แข่งแทบจะหันหน้า หรือว่าหันหลังไม่เจอบอล
และด้วยความสามารถที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้าจับตามอง อันเดรีย ปีร์โล และเจ้าตัวก็ได้รับฉายาว่า “ศิลปินลูกหนังแดนกลาง” และเป็นนักเตะที่เล่นบอลสายคลาสสิค และเป็นต้นแบบของนักเตะอีกหลายราย ซึ่งไม่ว่าการยิงฟรีคิกที่แม่นยำในลูกที่เช็ดคาน หรือว่าจะยิงลูกปั่นโค้งที่เรียบไปกับพื้น นั่นคือ อันเดรีย ปีร์โล ที่กำหนดทิศทางลูกบอลทุกอย่าง และอันเดรีย ปีร์โล ก็ยังเป็นต้นแบบกับการยิงลูกจุดโทษที่ชิปบอลแบบนิ่ม ๆ และเยือกเย็นเข้ากลางประตู ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบอลอยู่ในเท้าของ อันเดรีย ปีร์โล ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว หรือว่าเจ้าตัวจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ทุกคนจะไม่สามารถคาดหวัง หรือว่าเดาทางได้ แต่แน่นอนว่า อันเดรีย ปีร์โล คือคนที่กำหนดทิศทางของลูกบอลเพียงคนเดียว
และถึงแม้ว่า อันเดรีย ปีร์โล จะแขวนสตั๊ดมาแล้วหลายปี หลังจากที่สโมสรสุดท้ายเล่นให้กับ นิวยอร์กซิตี้ ในซีซั่น 2015 ถึงปี 2017 แต่ในปัจจุบันนี้ ถ้าหากจะพูดถึงห้องเครื่องตัวโฮลบอลที่สามารถกำหนดทิศทางของบอลได้อย่างแม่นยำ และเป็นต้นแบบของห้องเครื่องสายคลาสสิคก็คงต้องยกให้ อันเดรีย ปีร์โล เป็นหนึ่งเดียวหลังจากที่ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีห้องเครื่องของสโมสรไหนที่จะสามารถขึ้นมาเทียบเคียงกันเล่นของ อันเดรีย ปีร์โล ได้
และ อันเดรีย ปีร์โล ก็ถูกบันทึกเป็นตำนานในหลากหลายฉายาไม่ว่าจะเป็น “อัจฉริยะลูกหนัง” หรือว่า “ห้องเครื่องสายคลาสสิค” แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งที่แฟนบอลมีความสุข เมื่อเห็น อันเดรีย ปีร์โล อยู่ในสนามและคอยควบคุมแผนขับเคลื่อนแดนกลางให้กับทีมเมื่อครั้งอีต
