เฮนริก ลาร์สสัน กองหน้าชาวสวีเดนที่กลายเป็นตำนานให้กับทุกทีมที่เจ้าตัวลงเล่น บวกกับฝีเท้าและระเบียบวินัยที่ลงสนามด้วยความเป็นมืออาชีพ จึงทำให้ เฮนริก ลาร์สสัน ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในใจของแฟนบอลในทุก ๆ ทีมที่เจ้าตัวเคยสวมเสื้อให้กับพวกเขา
หากจะพูดถึงกองหน้าที่มีทักษะการยิงประตู หรือว่าเกิดมาเพื่อที่จะสังหารตาข่ายคู่แข่ง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ เฮนริก ลาร์สสัน ที่ในช่วงเวลาหนึ่งเจ้าตัวเข้ามาโลดแล่นในลีกยุโรป และฝากผลงานพร้อมกับจารึกชื่อในใจของแฟนบอลแต่ละทีม
เฮนริก ลาร์สสัน ได้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสร โฮโกบล็อก ในปี 1989 ซึ่งเป็นสโมสรในลีกบ้านเกิด และแน่นอนว่า ลาร์สสัน ใช้เวลากับการปั้นฝีเท้าตัวเอง จนบ่มเพาะเข้าสู่ในช่วงอายุวัย 20 ปี ก็ได้ย้ายเข้าสู่สโมสรเฮลซิงบอร์ก ซึ่ง ลาร์สสัน อยู่ร่วมทัพกับ เฮลซิงบอร์ก เพียงแค่ 1 ฤดูกาลในปี 1992 – 93 จากการลงเล่น 56 นัด และยิงไปได้ถึง 50 ประตู และปีแรกกับลีกอาชีพที่จริงจังของ ลาร์สสัน กับ เฮลซิงบอร์ก คือเวทีที่เล็กเกินไปสำหรับดาวรุ่งในวัย 20 ปี ที่ยิงประตูเฉลี่ยกับการลงสนามได้มากพอที่จะทำให้สโมสร เฟเยนูร์ด ก้าวเข้ามาดึงตัวกองหน้าชาวสวีเดนไปร่วมทัพในปี 1993
และนี่คือจุดเริ่มต้นของ ลาร์สสัน กับการประเดิมฝีเท้าในเวทียุโรปกับสโมสร เฟเยนูร์ด ซึ่ง ลาร์สสัน อยู่ร่วมทัพ เฟเยนูร์ด 4 ฤดูกาลยิงไปทั้งหมด 42 ประตูจากการลงสนามทั้งหมด 149 เกม และแน่นอนว่าความสำเร็จกับการคว้าบอลถ้วย KNVB กับ เฟเยนูร์ด ได้ถึง 2 ครั้ง ก็เพียงพอที่จะทำให้สโมสรเซลติก ทุ่มงบประมาณในช่วงนั้นในราคา 650,000 ปอนด์ เพื่อที่จะดึงตัว ลาร์สสัน เข้าไปร่วมทัพในลีกสกอตแลนด์
และนี่คือต้นกำเนิดของตำนานที่เริ่มสร้างชื่อของ ลาร์สสัน หลังจากที่ย้ายเข้าสู่เซลติก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ร่วมทัพในลีกสกอตแลนด์ ลาร์สสัน ยิงประตูแบบสะบั้นหั่นแหลกถึง 242 ประตู จากการลงสนาม 313 เกม และคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสก็อตติช ถึง 4 สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วยอีก 2 สมัย และแน่นอนว่า ลาร์สสัน คือนักเตะที่พาทีมเล็กอย่าง เซลติก โลดแล่นในบอลถ้วยยุโรปได้อย่างสมศักดิ์ศรี และทีมใหญ่ต่างก็เกรงกลัวเซลติก เพราะว่ามีกองหน้าชื่อ ลาร์สสัน อยู่ร่วมทีม
และก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกกับการย้ายทีมของ ลาร์สสัน เพราะเจ้าตัวอยู่ในคลาสของกองหน้าระดับแถวหน้าของวงการในช่วงที่เล่นให้กับ เซลติก และก็ไม่พลาดที่ บาร์เซโลนา จะฉกตัว ลาร์สสัน ออกจาก เซลล์ติกในปี 2004 และถึงแม้ว่าในช่วงนั้น ลาร์สสัน จะอยู่ในวัย 33 ปีแล้วก็ตาม แต่การการันตีด้วยฝีเท้าและประสบการณ์พร้อมกับจำนวนสกอร์ที่ถล่มประตูคู่แข่งมาแล้วก่อนหน้านี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ ลาร์สสัน เข้าไปสวมเครื่องแบบ บาร์ซา และลงวาดลวดลายในถิ่น คัมป์นู ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และถึงแม้ว่า ลาร์สสัน จะไม่ได้อยู่ยืนยาวเพราะว่าเจ้าตัวอายุเยอะ แต่ผลงานกับ บาร์เซโลนา 13 ประตูจากการลงสนาม 40 นัด ก็ทำให้แฟนบอล บาร์เซโลนา จดจำชื่อของ ลาร์สสัน เพราะว่าเป็นประตูสำคัญทั้งหมด
โดยเฉพาะการยิง 2 ลูก แซงชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในปี 2004 – 05 แซงคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปีนั้นได้สำเร็จ และยังคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน กับ บาร์เซโลน่า พร้อมกับบอลถ้วยรวมทั้งหมดในเครื่องแบบของ บาร์เซโลน่า ได้ถึง 3 แชมป์
และในปี 2006 ลาร์สสัน ก็ตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นใน เฮลซิงบอร์ก ด้วยคำมั่นสัญญากับครอบครัวและทีมที่ปลุกปั้นให้เจ้าตัวโด่งดัง แต่ทว่าในปี 2007 กับสัญญายืมตัว 3 เดือน ลาร์สสัน ย้ายเข้าสู่ทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฮนริก ลาร์สสัน ก็กลับมาฝากผลงาน 3 ประตูยิงช่วยให้ แมนยู ฯ คว้าแชมป์ในฤดูกาลนั้นเช่นเดียวกัน จนได้รับการติดต่อทาบทามจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้อยู่ต่ออีก 1 ปี แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของ ลาร์สสัน ที่ให้ไว้กับครอบครัว และแฟนบอล เฮลซิงบอร์ก ซึ่งบอกว่าเจ้าตัวจะย้ายกลับไปเล่นในช่วงบั้นปลายของการแขวนสตั๊ด จึงได้อำลา “ผีแดง” พร้อมกับฝากตำนานคว้าแชมป์กับทีม ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาที่สั้นก็ตาม
และตลอดระยะเวลา เกือบ 25 ปี หลังจากที่ ลาร์สสัน สวมสตั๊ดลงล่าตาข่ายไม่ว่าจะเป็นทีม โฮโกบล็อก, เฮลซิงบอร์ก, เฟเยนูร์ด หรือว่า เซลติก รวมถึง บาร์เซโลนา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชื่อของ เฮนริก ลาร์สสัน ก็เข้าไปอยู่ในใจของแฟนบอลในฐานะตำนานของทุก ๆ ทีม